อยากรู้ขนาดของ cap ตามรูป

อยากรู้ขนาดของ cap หาซื้อตามร้านทั่วไป แบบว่าอาการฟตกมากครัป ตามรูป แบบว่าไปอ่านหนังสือ มา อยากรู้ขนาดจะไปซื้อ ติดของตัวเอง
เซียท่านได้ รู้แนะนำหน่อยคราป
[/URL][/IMG]

 

จากตามหลักวิชาการ และประสบกานของ chainatsound

จากประสบกาน ถึง 21 ปี ของ chainatsound นั้น และจาก

หลักทางวิชาการ การใส่ capa ก็มีส่วนช่วยให้ไฟไม่ตก แต่

ถ้าใช้การเพิ่มแบต อีกลูกเข้าไปใช้ได้ดีกว่ามาก ๆ คร๊าฟ เห็นผลแน่นอน

 

-ขอบคุนคราปคงไม่เพิมครัป หนักรถ อยากให้มันนิ่ง
ใครทราบขนาดและรายละเอียดบ้างครัป กำลังจะติดตั้งแล้ว -

 

cap

ผมแนะนำนะคับที่รถของคุนไฟตกก็คือสายไปตรงที่เดินเข้าวิทยุนั้นเล็ก ควรเดินสายไฟให้ฟร้อนไหม่1เส้น ขนาดสักเบอร์10หรือ8ก็ได้ ผ่านฟิวด้วยนะคับแค่นั้นอาการไฟตกท่านก็จาหายไป ถ้าอยากไห้ไฟตรงที่ต่อมาจากแบตเข้าฟร้อนมันนิ่งนะคับ ผมแนะนำ cap Helix ขนาด 33,000 MICRO FARAD ราคาก็1500บาท

 

ผมสั่งซื้อจากเว็บนี้ครับ http://www.auto191.com/ อันะพันกว่าบาทลองมาต่อเองก็ได้ง่ายๆ อากาศไฟตกช่วยได้
อย่างว่าแหละครับเพิ่มแบต1ลูกดีกว่าติดcap ถึง5ตัว แต่ถ้าระบบไม่ใหญ่มากก็เพิ่มcapดีกว่า เพิ่มแบตมันหนักรถ

 

ตาม hut_sssaudio ว่าไว้เลยครับ

 

งานเครื่องเสียงรถยนต์ในต่างประเทศปัจจุบันนี้ แทบจะไม่มีใครใช้ cap กันอีกแล้วครับ ตอนแรกๆผมก็สงสัยว่าทำมัยเค้าไม่ใช้กัน ก็เลยลองปรึกษา ผู้รู้ในวงการเครื่องเสียงในเมืองไทยก็ยังไม่ได้คำตอบที่ดีนัก ก็เลยลองเข้าไปศึกษาตาม webboard เครื่องเสียงของต่างประเทศ เสยเจอมีบทพิสูจน์ทางวิชาการว่าไม่ใช่แค่ cap จะไม่ช่วยระบบไฟในรถแล้วยังจะเป็นตัวถ่วงมากขึ้นไปอีก ถ้ามีคนสนใจจะนำมาให้อ่านกันครับ ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เก่งมาจากไหนนะครับ เพียงแต่ชอบหาความรู้ใหม่ๆใส่ตัว บางทีเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็เอามาแชร์ความคิดเห็นกับเพื่อนๆครับ
บททดลองง่ายๆที่ให้กันจริงก็คือ การเปรียบเทียบกันระหว่าง cap ที่ชาร์ทไฟมาเต็มๆ กับ ถ่านไฟ 9v ที่เป็นเหลี่ยมๆก้อนเล็กๆ เอามาจ่ายไฟให้หลอดไฟที่มีกำลังเท่ากัน รู้สึกว่า cap จะจ่ายไฟให้หลอดไฟได้ประมาณ 5 ชม ส่วนถ่านไฟ 9ิv ได้ประมาณ 2วัน นอกเหนือจากนั้นยังมีรายละเอียดอีกมากมายครับ

ที่สำคัญที่นิยมทำกันมากคือการ อัพเกรด Big 3 หลักการก็คือทำยังงัยก็ได้ให้ ระบบไฟที่หล่อเลี้ยงเครื่องเสียงในรถนั้น ไหลวนได้ครบวงจร ก็คือไม่ใช่แค่อัพเกรดสายไฟเข้าแอมป์แค่นั้นที่ควรทำก็คือ
1) Battery negative to chassis ขั้วลบแบตไปตัวถัง
2) Alternator to battery positive ไดร์ชาร์ท (Alternator) เข้าขั้วบวกแบต
3) Chassis to engine ตัวถังกลับไปยังเครื่องยนต์ซึ่งเปรียบเสมือน negative terminal ของ alternator
การทำแบบนี้จะช่วยให้ระบบไฟในรถหมุนเวียนได้ดีไม่อั้นตามจุดต่างๆแน่นอนใช้งบประมาณไม่มากและเห็นผลจริงๆ หลังจากนั้นก็
step ต่อไปก็ค่อยหา batt ดีๆสักลูกส่วนตัวเคยใช้ kinetik ใส่แทนแบตเดิมก็ค่อนข้างพอใจ แล้วก็หา alternator ดีๆที่สามารถจะชาร์ทไฟให้แบตลูกใหม่ที่เราเปลี่ยนเข้าไปได้เพียงพอ

 

ต่อจุดยึดแน่นหลาน ก็ จบ