ตอนนี้ 2 แสนโลแล้วครับ.. B14 GA16DNE Auto รบกวนแนะนำน้ำมันเครื่อง กับ น้ำมันเกียร์ สำหรับรถอายุขนาดนี้หน่อยครับ.. เครื่องยนต์จะอยู่กับเราได้อีกนานไหมครับ.. ปกติผมขับรถช้า ไม่เกิน ร้อยยี่สิบครับ.. ตอนนี้ทั่วไปก็ปกติดี สตาร์ทติดง่าย เกียร์ออโต้ ก็ปกติดี.. ดูแลยังงัยต่อครับ.. กลัวเครื่องจะพังก่อน ตังค์ไม่ค่อยจะมีด้วย.. มันต้องยกเครื่อง โอเวอร์ฮอลเครื่องไหมครับ.. แต่ตอนนี้ปกติดีนะ... หรือ รอทำตอนมันเจ๊งทีเดียวเลยดี... ขอคำแนะนำด้วยครับ.. หรือมีอะไรที่น่าจะทยอยเปลี่ยนๆ ไปก่อนบ้าง..
ไม่มีอะไรเสียก็ดูแลรักษาตามปกติครับ ที่ต้องทำก็คงมีเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะและหมั่นสั่งเกตด้วยว่า หลังจากเปลี่ยนน้ำมันเครื่องระดับของน้ำมันเครื่องยุบลงไปเร็วหรือไม่ เช่นเปลี่ยนที่ระยะ 10000 กม. เมื่อใช้ไปถึงซัก 5000 น้ำมันเครื่องยังถึงครึ่งอยู่หรือไม่ (เพราะปกติจะมีอาการลดลงของเครื่องยนต์บ้าง) เรื่องเกียร์ก็เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ได้ครับ แนะให้ให้ใช้คาล์เท็กซ์ตราดาวเท่านั้น ยี่ห้อแปลกๆ มากๆก็อย่าไปลอง เพราะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิด เรื่องใหญ่จะตามมา อีกจุดก็ระบบระบายความร้อนซึ่งมาถึงอายุปูนนี้ต้องดูแลกันนิด เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำเดิมออกจากหม้อน้ำบ้าง สามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเองหรือไม่ช่างทำค่าแรงไม่เกิน ร้อยบาท หมั่นดูพัดลมหม้อน้ำด้วยว่าหมุนแรงดีหรือไม่ หมุนช้าแล้วฮีต หม้อน้ำแห้ง ฝาสูบโก่ง ฯลฯ หากหมุนช้าแล้ว ทั้งพัดลมแอร์ด้วย ก็เปลี่ยนไปเลยก็แจ๋งไปอีกนาน ใช้ของเชียงกงก็ได้ครับ วาล์วน้ำหากเข็มวัดความร้อนไม่อยู่ตรงกลาง เครื่องเย็นไปบ้าง หรือเกินครึ่งมานิดๆ หรือความร้อนเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง อันนี้ก็ต้องตรวจเช็ควาล์วน้ำ ราคาไม่กี่ร้อยบาท สำหรับเครื่องก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ปัญหาจะไปอยู่ที่ระบบช่วงล่าง ลูกหมากต่างๆหลวม ลูกปืนล้อวิ่งเร็วแล้วมีเสียงหอนๆหรือไม่ ยางหุ้มกันฝุ่นต่างๆขาดหรือยัง โช้คอัพแตกมีน้ำมันเยิ้มหรือไม่ เวลาเลี้ยวกลับรถยูเทรินมีเสียงกุกๆๆ ตรวจว่าเพลาขับเสียแล้วหรือยัง ส่วนเรื่องโอเวอร์ฮอล์ ต้องว่ากันทีหลังหากมีอาการควันขาวออกท่อไอเสียและกินน้ำมันเครื่องดุเดือดเท่านั้นครับ หากไม่มีก็ลืมไปได้เลย ทั้งหมดคงเท่านี้มั้งครับ
2 แสนโล อะ เด็กๆ ครับ ในคลับ บางคัน 3 แสนยังมี ขับไปจนกว่าจะพังอะครับ แต่ขอบอกพังอยาก ดูแลเรื่อง น้ำ ความร้อน น้ำมันเครื่อง แค่นี้ ยังไงมันก็ไม่พังละ ลืม น้ำมันเกียร์ด้วย
รถผม ก้อ 200000 ทีแรกนึกว่า ใกล้หลวม เลย ยกลงซะ รื้อ ออกมา ขาวโบ๊ะ อยู่เลย นึกในใจ จะเปลี่ยน ทำไมวะกรู 555
ขอบคุณครับพี่ Ketdanai ข้อมูลครบถ้วนดีจังเลยครับ.. รู้ว่าหากดูแลดีๆ มันจะไปได้ถึง 3 แสนโล.. แค่นี้ก็ใจชื้นแล้ว... ผมจะทยอยๆ ทำ ทยอยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่สำคัญๆ ไปเรื่อยๆ ครับ.. จะได้ไม่สะเทือนกระเป๋าสตางค์มากเกินไป
ของ ผม แสน กว่า ๆ เอง แต่ ก้อ ระแวง ไปหมด วันนี้ ไป อู่ พี่ติ่ง มา ปรากฏว่า ทั้งช่าง ทั้ง พี่ติ่ง ตรวจสอบให้ ว่า ไม่มีอะไร ขับกลับบ้าน ยังกลัว ๆ ( ทั้ง ๆ ก็ ไม่มีอะไร ) สงสัย ต้อง ตั้ง สติ ใหม่ แล้ว ขอบคุณคร้าบ พี่ติ่ง กับ ช่างที่อู่
อันนี้ใช่เลยครับ เสียงประมาณนี้เลยครับ ตรวจสอบให้ชัวร์ได้โดยยกล้อขึ้น แล้วใช้มือหมุนล้อ เอามือแตะเบาๆที่สปริงโช้ค จะมีอาการสั่นสะท้านมาที่มือเราเป็นจังหวะๆ นั่นคืออาการลูกปืนล้อชำรุดแล้ว หรือสังเกตจากยางที่สึกเป็นบั้งๆก็ได้เช่นกัน อิอิ ขอขอบคุณพี่น้องทุกๆท่านนะครับ สำหรับกำลังใจและความอบอุ่นที่มีให้อย่างล้นเหลือ คิดไม่ผิดจริงๆครับ ที่มาอาศัยบ้านนี้เป็นที่พักพิงทางใจ ที่ ST ทำให้ผมรู้สึกว่า เป็นมากกว่าที่ที่คนใช้รถเหมือนกันมารวมตัวกัน แต่ ST เป็นที่ที่คนที่มีใจเปิดกว้าง เปี่ยมด้วยน้ำใจ และพร้อมที่จะรับคนหน้าใหม่เป็นเพื่อนอย่างจริงใจ ที่สำคัญที่นี่ทำให้ผมรู้สึกว่า อ่านกระทู้ไหนๆว่าฮาแล้ว อ่านลงไปอีกแล้วจะรู้สึกว่า จะฮาอะไรกันนักกันหนาเนี่ยพี่น้อง ขำจนปวดท้องไปเลย ปล. ภูมิใจจังได้เป็น"สตั๊นท์แมนเก็บสบู่" ของพี่หนุ่มหย่ายยยเนี่ย.. ว่างๆก็อยากรู้อยากลองว่าพี่หนุ่ม...หย่ายยจิงอ๊ะเป่าววววว อิอิ ล้อเล่นนะครับพี่
