​

เมื่อพูดถึงการตรวจสภาพรถยนต์ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงการตรวจสภาพเพื่อต่อภาษี แต่ทราบหรือไม่ว่าบางครั้งการทำประกันรถยนต์ก็ต้องตรวจสภาพรถเช่นกัน เพียงแต่วิธีการตรวจและวัตถุประสงค์แตกต่างกัน ใครยังไม่ทราบว่าการทำประกันรถแบบใดเข้าข่ายต้องตรวจสภาพรถ นอกจากการไปสอบถามรายละเอียดประกันรถกับบริษัทประกันแล้วบทความนี้ยังมีคำตอบให้เช่นกัน

ประกันรถยนต์ประเภทไหนต้องตรวจสภาพรถ
การตรวจสภาพรถไม่ได้ตรวจเพื่อต่อภาษีเสมอ เพราะหลายครั้งเมื่อสอบถามรายละเอียดประกันรถแล้วพบว่าการซื้อประกันรถหรือการต่อประกันรถจำเป็นต้องได้รับการตรวจสภาพเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่บริษัทประกันจะแจ้งก่อน สำหรับรูปแบบประกันที่ต้องตรวจสภาพก่อนเสมอ นั่นคือ รถที่ทำประกันชั้น 1 ที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนทุกกรณี
นอกจากนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังเป็นอีกหนึ่งรูปแบบประกันที่ต้องตรวจสภาพรถ แต่จะไม่ใช่ทุกกรณีเหมือนประกันชั้น 1 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทประกันนั้น ๆ โดยการตรวจสภาพรถเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถ่ายภาพรถด้วยตัวเอง หรือบางครั้งให้ท่านเจ้าของรถเป็นคนถ่ายให้ ส่วนที่ถ่าย ได้แก่ สภาพภายนอก สภาพภายใน กระจก อุปกรณ์แต่งรถ และเลขตัวถัง เป็นต้น ก่อนตัดสินใจซื้อประกันนอกจากต้องดูความคุ้มครองรถยนต์แล้วยังต้องทราบด้วยว่ารูปแบบประกันรถของคุณนั้นเข้าข่ายต้องตรวจสภาพรถก่อนหรือไม่

​

เพราะอะไรจึงต้องตรวจสภาพรถก่อนทำประกัน
เหตุผลที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อประกัน นั่นเพราะจะใช้เป็นข้อมูลยืนยันหากในอนาคตเกิดการเคลมหรือเกิดความเสียหาย การถ่ายภาพเพื่อยืนยันสภาพรถจะทำให้ยืนยันได้ว่าสภาพรถยังพร้อมใช้งานหรืออยู่ในการครอบครองของท่านเจ้าของรถจริง ๆ ดังนั้น หากเปิดดูแผนประกันรถยนต์ล่าสุดแล้วพบว่าปัจจุบันเป็นประกันชั้น 1 หากต้องการต่อประกันชั้น 1 แบบเดิม บอกเลยว่าต้องตรวจสภาพรถก่อนแน่ ๆ หรือหากไม่แน่ใจแนะนำให้เช็คประกันรถ กับ TQM หรือโบรกเกอร์เพื่อความชัวร์

ตรวจสภาพรถเพื่อต่อประกัน vs ตรวจสภาพรถเพื่อต่อภาษี แตกต่างกันอย่างไร
เชื่อว่าหลายคนสงสัยว่าแล้วอย่างนี้ การตรวจสภาพรถเพื่อต่อประกันรถยนต์และการตรวจสภาพรถเพื่อต่อภาษีแตกต่างกันอย่างไรล่ะ? สิ่งที่เห็นได้ชัด นั่นคือ วัตถุประสงค์การตรวจ โดยการตรวจสภาพรถเพื่อต่อภาษี ตรวจเพื่อยืนยันว่ารถยนต์อายุมากกว่า 7 ปียังพร้อมใช้งานและไม่มีการดัดแปลงจนเข้าข่ายผิดกฎหมาย ในขณะที่การตรวจสภาพรถเพื่อต่อประกันเป็นการยืนยันสภาพรถว่าไม่มีความเสียหาย
นอกจากนี้ อีกหนึ่งความแตกต่างคือสถานที่ตรวจสภาพรถ โดยการตรวจสภาพรถเพื่อต่อภาษีจะต้องนำรถไปตรวจที่ ตรอ. หรือกรมการขนส่ง ในขณะที่การตรวจสภาพรถเพื่อต่อประกันสามารถทำที่ใดก็ได้ เพียงแต่ต้องเป็นสถานที่ที่ไม่มืดจนเกินไป ถ่ายภาพเห็นชัด หลังจากตรวจสภาพรถและได้ราคาเบี้ยประกันแล้วก็อย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถรวมทุกบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด

สรุป
เมื่อรู้แบบนี้แล้วใครกำลังเตรียมซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือแม้แต่ชั้น 2+ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เผื่อเวลาให้บริษัทประกันได้มีเวลาตรวจสภาพรถก่อนเริ่มต้นความคุ้มครอง เพื่อความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และเพราะประกันชั้น 1 และประกันชั้น 2+ เป็นรูปแบบประกันที่ค่อนข้างได้รับความนิยม ก่อนตัดสินใจซื้อประกันอย่าลืมดูความคุ้มครองรถยนต์ให้ละเอียดก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบและเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง