[Announce] รู้จักข้อดีของการทำประกันมะเร็ง และเวลาที่ควรเริ่มทำประกันมะเร็ง

โรคมะเร็ง เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยหลายหมื่นรายต่อปี และในทุก ๆ ปีจะมีจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยสถิติในปี พ.ศ.2564 พบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ถึง 140,000 คน และมีผู้ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งมากกว่า 87,000 คน จากสถิติเหล่านี้ ทำให้เห็นชัดเลยว่า โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด และมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุก ๆ คน การทำประกันมะเร็งจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควร

รวม 3 ข้อดีของการทำประกันมะเร็ง
หลายคนอาจคิดว่า การทำประกันมะเร็งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ในปัจจุบัน เราสามารถเลือกทำประกันมะเร็ง ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัยได้เลย ซึ่งสะดวก และรวดเร็วมาก ๆ

แต่สำหรับใครที่ยังไม่อยากทำประกันมะเร็ง เพราะคิดว่ายังไม่จำเป็นสำหรับตัวเองเท่าไหร่ เรามี 3 ข้อดีของการทำประกันมะเร็งมาฝาก รับรองว่า อ่านจบแล้วจะช่วยให้คุณเห็นถึงความสำคัญของประกันมะเร็งอย่างแน่นอน

1. ประกันมะเร็งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาได้มาก

การรักษาโรคมะเร็งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง หลาย ๆ วิธีร่วมกัน และต้องใช้ระยะเวลาอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจเลือด การทำเอกซเรย์ การทำ MRI การผ่าตัด การให้เคมีบำบัด หรือการฉายแสง รวมกันแล้วอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึงหลักแสนเลย ถ้าหากไม่ทำประกันมะเร็งไว้ก่อนก็อาจจะรับมือกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ไหว

2. มีเงินสำรองให้กับคนในครอบครัว
การทำประกันมะเร็งนั้น จะมีให้เลือกทำทั้งแบบคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล โดยหากตรวจพบมะเร็ง จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง และจ่ายเงินเต็มจำนวนทันที ที่จะจ่ายผลประโยชน์เป็นเงินก้อนให้เมื่อตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งคุณสามารถนำเงินผลประโยชน์ที่ได้รับมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในช่วงที่พักรักษาตัว หรือเก็บไว้เป็นทุนสำรองให้กับคนในครอบครัวก็ได้

3. ค่าเบี้ยประกันไม่สูง
ค่าเบี้ยประกันมะเร็งส่วนใหญ่ จะมีค่าเบี้ยประกันที่ไม่สูง โดยเริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อปี มีวงเงินคุ้มครองสูงสุดประมาณ 200,000 บาท ทำให้ผู้ที่ทำประกันสามารถชำระค่าเบี้ยประกันได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องเครียดมากจนเกินไป และเมื่อเปรียบเทียบกับความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง ก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุด

เมื่อไหร่ที่ควรทำประกันมะเร็ง
การทำประกันมะเร็งเมื่อไหร่ดีนั้น ควรดูที่ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเป็นหลัก หากคุณเป็นที่ครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็ง มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เช่น สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือมีการเจ็บป่วยบ่อย ๆ ก็ควรที่จะพิจารณาการทำประกันมะเร็งตั้งแต่เนิ่น ๆ

จะเห็นได้ว่า ประกันมะเร็งเป็นหนึ่งในประกันสุขภาพที่มีความสำคัญมาก และมีข้อดีมากกว่าที่เราคิด สำหรับใครที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ก็ควรที่จะทำประกันมะเร็งติดตัวไว้ เพื่อที่จะได้เพิ่มความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวเอง เมื่อเจ็บป่วยเป็นโรคมะเร็งจริง ๆ ก็จะสามารถเข้ารับการรักษาที่มีคุณภาพ และรับมือกับค่าใช้จ่ายในการรักษาได้นั่นเอง