ประกาศราคา Porsche 911 Dakar ใหม่อย่างเป็นทางการ

การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 23 พฤศจิกายน 2022

โดย News เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2022 เมื่อ 08:29
  1. News

    News Active Member Super Moderator

    1,003
    3
    38
    [​IMG]

    ปอร์เช่เปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นพิเศษปอร์เช่ 911 ดาร์ก้า (Dakar) ใหม่ ครั้งแรกของโลก ในงานมหกรรมยานยนต์ ลอสแอนเจลิส ออโต โชว์ (Los Angeles Auto Show) รถสปอร์ตสุดพิเศษที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะทั้งบนเส้นทางออฟโรด (Off-road) และ ไฮเวย์ (Highway) จำกัดจำนวนการผลิตเพียง 2,500 คันทั่วโลก นอกจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของปอร์เช่ 911 ในวิถีที่หลายคนคาดไม่ถึง และยังเป็นการคารวะต่อชัยชนะ Overall ครั้งแรกของปอร์เช่ จากรายการแข่งขันทางฝุ่น Paris-Dakar Rally ปี 1984 ซึ่งถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ในรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 นอกจากนี้ยังสามารถสั่งติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง Rallye Design Package แนวทางเดียวกับรถแข่งแรลลี่ตัวแรงอันเป็นเอกลักษณ์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ความประทับใจแรกสุดที่พบเห็นได้จากปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) คือระดับความสูงของตัวรถ ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มขึ้น 50 มิลลิเมตรจากปอร์เช่ 911 Carrera (คาร์เรร่า) ที่ติดตั้งช่วงล่างแบบสปอร์ต ด้วยระบบ Lift System ยังสามารถสั่งการยกความสูงทั้งด้านหน้า และด้านหลังเพิ่มขึ้นอีก 30 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าเทียบเคียงกับรถยนต์ SUV ทั่วไปได้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นความสูงใต้ท้องรถ หรือประสิทธิภาพในการปีนไต่ทางลาดชัน ระบบ Lift system ไม่เพียงช่วยในการเอาชนะอุปสรรคที่ขวางทาง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วงล่างสมรรถนะสูงที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ การใช้งานที่ระดับ 'High level' นำพารถยนต์พุ่งผ่านเส้นทาง Off-road ที่ความเร็วไม่เกิน 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ความเร็วเกินกว่านั้น ระบบจะปรับลดระดับความสูงลงมาในตำแหน่งปกติโดยอัตโนมัติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เสริมสปอร์ตออฟโรด Off-road ได้อย่างเต็มพิกัด คือยางรถยนต์ Pirelli Scorpion All Terrain Plus (ขนาด 245/45 ZR 19 ที่ด้านหน้า และ 295/40 ZR 20 ที่ด้านหลัง) ซึ่งออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ ลายดอกยางพร้อมลุยจากความลึกถึง 9 มิลลิเมตร และแก้มยางเสริมความแข็งแกร่ง มั่นใจในความทนทานด้วย Threads ของยางที่ผลิตจากผ้าใบเสริม Carcass plies จำนวน 2 ชั้น ทั้งหมดคือปัจจัยที่ทำให้ยางรถยนต์ของปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) เหมาะสมที่สุดสำหรับการบุกตะลุยทุกเส้นทางที่ท้าทาย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้งยางรถยนต์ Pirelli P Zero เวอร์ชั่นปกติ และยาง Winter สำหรับฤดูหนาวได้ตามความต้องการ ซึ่งยางทั้งหมดมาพร้อมผ้าใบเสริม Carcass plies 2 ชั้นเช่นกัน โดยยาง all-terrain สามารถรองรับการขับขี่ความเร็วสูงบนทางเรียบ ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พละกำลังที่อยู่ภายใต้การควบคุมในทุกสภาพเส้นทาง
    เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ พละกำลังสูงสุด 480 แรงม้า (353 กิโลวัตต์) แรงบิดมหาศาลกว่า 570 นิวตันเมตร ถ่ายทอดสมรรถนะชั้นยอด พร้อมเสียงคำรามกระหึ่ม อันเป็นเอกลักษณ์ของขุมพลังบ็อกซ์เซอร์ รถสปอร์ต รุ่นล่าสุดคันนี้สามารถออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ไปถึงระดับความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากการใช้ยางแบบ all-terrain

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในรุ่นมาตรฐาน เครื่องยนต์จะถ่ายทอดกำลังไปยังระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่อัจฉริยะ PDK 8 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ประกอบด้วย ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear-axle steering จุดยึดแท่นเครื่องที่ยกมาจากปอร์เช่ 911 GT3 และ PDCC anti-roll stabilisation เมื่อทุกอย่างข้างต้นผสานการทำงานร่วมกัน ส่งผลให้ 911 Dakar (ดาร์ก้า) โลดแล่นได้อย่างรวดเร็วในทุกสภาพพื้นถนน ไม่ว่าจะบนผืนทราย หรือผิวทางเปียกลื่น โดยสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นไม่ต่างจากการขับขี่ในสนาม Nürburgring Nordschleife สร้างความมั่นใจด้วยสมรรถนะสไตล์ออฟโรด (off-road) ได้เต็มพิกัดจาก driving modes ใหม่ถึง 2 รูปแบบ ซึ่งสามารถสั่งการใช้งานฟังก์ชั่นได้จากปุ่มควบคุม Rotary switch บนพวงมาลัย โดย Rallye mode เหมาะกับทางลื่น หรือเส้นทางที่ต้องการเน้นประสิทธิภาพจากระบบ all-wheel drive ในส่วนของ off-road mode จะปรับระดับใต้ท้องรถขึ้นโดยอัตโนมัติ ดีไซน์เพื่อถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนสูงสุด สำหรับเส้นทางทุรกันดาร หรือเนินทราย ทั้งสองรูปแบบใน driving modes สามารถทำงานร่วมกับระบบ Rallye Launch Control ใหม่ล่าสุด ให้อัตราเร่งอันยอดเยี่ยมแม้บนผิวทางเปียกลื่น และระบบจะอนุญาตให้เกิดการลื่นไถลของล้อได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

    [​IMG]

    [​IMG]

    อุปกรณ์พิเศษ Roof basket หรือเต็นท์หลังคา พร้อมนาฬิกาข้อมือ Porsche Design chronograph
    เสริมบุคลิกเฉพาะตัวให้กับปอร์เช่ 911 Daka (ดาร์ก้า) ด้วยอุปกรณ์พิเศษที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ สปอยเลอร์หลังน้ำหนักเบาแบบ Fixed ผลิตจากวัสดุ CFRP รวมทั้งฝากระโปรง CFRP พร้อมช่องดักอากาศสไตล์สปอร์ตตัวแรงที่ยกมาจากปอร์เช่ 911 GT3 นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับชิ้นงาน off-road มากมายที่ติดตั้งเป็นมาตรฐาน อาทิ ขอเกี่ยวลากรถอลูมิเนียมสีแดง บริเวณกันชนหน้า และหลังซุ้มล้อขยายขนาดความกว้าง และชายล่างผลิตจาก stainless steel กันกระแทกรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ช่องรับอากาศด้านข้างดีไซน์ใหม่เสริมความดุดันให้มุมมองหน้ารถ พร้อมกระจัง stain-less steel ป้องกันกรวดหินที่อาจดีดขึ้นมาจากผิวทาง

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลังคาของปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) ติดตั้งช่องจ่ายกระแสไฟ 12 โวลท์ สำหรับชุดไฟส่องสว่าง และแร็คหลังคาซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษ สามารถรับน้ำหนักได้ 42 กิโลกรัม ตัวแร็คเสริมฟังก์ชั่นด้วยการติดตั้งเครื่องมือสำหรับการแข่งขันแรลลี่ ได้แก่ ถังน้ำมันเชื้อเพลิง และถังน้ำสำรอง พลั่วอเนกประสงค์แบบพับเก็บได้ และแผ่นรอง Traction boards อุปกรณ์เสริมสำหรับจัดเก็บสัมภาระบนหลังคา ทั้งหมดจัดวางได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งติดตั้งเต็นท์หลังคาเพิ่มเติมให้กับปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) ได้อีกด้วย

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภายในห้องโดยสาร ปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศของความเป็นรถสปอร์ตสายพันธ์แรงในทุกอณู ด้วยเบาะนั่งมาตรฐาน Full bucket seats รวมทั้งถอดเบาะหลังออก กระจกรอบคัน และแบตเตอรี่น้ำหนักเบา จากการลดภาระน้ำหนังดังกล่าวมาส่งผลให้ปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) มีน้ำหนักรวม 1,605 กิโลกรัม หรือหนักกว่าปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า โฟร์ จีทีเอส (Carrera 4 GTS) ที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK เพียง 10 กิโลกรัม เท่านั้น
    อีกหนึ่งความพิถีพิถันที่ปรากฏภายในห้องโดยสารมาตรฐานของรุ่นดาร์ก้า (Dakar) คือการตกแต่งด้วยวัสดุ Race-Tex พร้อมเดินตะเข็บด้วยสีเขียว (Shade Green) นอกจากนั้นยังสามารถสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ Metallic exterior finish สำหรับปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) รวมไปถึงชุดตกแต่ง Rallye Sport Package พร้อม Roll-over bar เข็มขัดนิรภัย 6 จุด และเครื่องมือดับเพลิง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชุดแต่ง Rallye Design Package สะท้อนภาพรถแข่งแรลลี่ตัวแรง เจ้าของแชมป์การแข่งขัน Paris-Dakar ปี 1984
    หัวใจสำคัญของอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่ง Rallye Design Package จาก Porsche Exclusive Manufaktur คือสีตัวถัง Two-Tone ที่มาในเฉดสีขาว ตัดด้วยสีน้ำเงิน Enzian Blue Metallic นับเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่บรรจุสีตัวถังแบบ Bi-colour paint และการตกแต่งลวดลายลงในรถจากสายการผลิตปกติ ด้านข้างรถลูกค้าสามารถเลือกติดหมายเลขได้โดยอิสระตั้งแต่ 0 ถึง 999 ตามด้วยลายคาด Rally stripes สีแดง และสีทอง ปอร์เช่ 911 Dakar ที่ติดตั้งชุดแต่ง Rallye Design Package มีความโดดเด่นสง่างามจากพื้นฐานที่อ้างอิงรถแข่งเจ้าของตำแหน่งแชมป์เปี้ยนชนะเลิศจากการแข่งขันแรลลี่ Paris-Dakar ปี 1984 รวมไปถึงตัวอักษร "Roughroads" ที่ประทับลงบนบานประตู อีกหนึ่งเครื่องหมายอันเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ประจำตัวของ 911 Dakar (ดาร์ก้า) และรถแข่งสายพันธ์ออฟโรด (Off-road) จากปอร์เช่ ขอบล้อสีขาว และแผงไฟท้ายสีแดง สร้างความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานในทันทีที่สังเกต Highlights อื่น ๆ สามารถพบเห็นได้จากภายในห้องโดยสาร ซึ่งรายรอบด้วยวัสดุ Race-Tex และชิ้นงานหนังแท้ รวมทั้งเข็มขัดนิรภัยสีน้ำเงิน Sharkblue

    [​IMG]

    [​IMG]

    นาฬิกาข้อมือ Porsche Design Chronograph
    ผู้ครอบครองปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) สามารถสั่งซื้อนาฬิกาข้อมือ Porsche Design Chronograph 1 - 911 Dakar หรือ Chronograph 1 - 911 Dakar Rallye Design Edition ที่เข้ากับตัวรถ นับเป็นครั้งแรกที่ตัวเรือนนาฬิกาผลิตจากวัสดุป้องกันรอยขีดข่วน Scratch-resistant และ light titanium carbide

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปอร์เช่ 911 Dakar (ดาร์ก้า) ใหม่ เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 22.9 ล้านบาท สำหรับชุดแต่ง Rallye Design Package ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2.56 ล้านบาท
     

ความคิดเห็น

การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 23 พฤศจิกายน 2022

แบ่งปันหน้านี้