เรดาร์รอบทิศทางสามารถตรวจจับวัตถุ เช่น ยานพหานะตรงทางแยก รถจักรยานยนต์หรือผู้ขับขี่จักรยานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
เซ็นเซอร์เรดาร์เป็นความสำเร็จของคอนติเนนทอลมากว่า 20 ปีแล้ว โดยได้เปิดตัวเซ็นเซอร์เรดาร์ทั้งหมดมากกว่า 100 ล้านตัวในตลาดทั่วโลกและยังคงพัฒนาต่อไป คอนติเนนทอลจะมีการนำเสนอเรดาร์ระยะไกล และเรดาร์รอบทิศทางรุ่นที่ 6 ในงาน Auto Shanghai ซึ่งมีกำหนดการผลิตในปี 2566 และยังได้รับคำสั่งซื้อเบื้องต้นจากลูกค้าแล้ว เรดาร์ทั้งสองแบบใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เดียวกัน จึงสามารถลดต้นทุนและความซับซ้อนลงไปได้ อีกทั้งการทดสอบและพัฒนาของฝั่งลูกค้าก็น้อยลงด้วย ในขณะที่ประสิทธิภาพกลับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่ 5 ด้วยความครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายจากข้อกำหนด Euro NCAP ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระบบอัตโนมัติขั้นสูง เช่น การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ อีกทั้งยังครอบคลุมข้อกำหนดความปลอดภัยทั่วไป (GSR) อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเรดาร์ยังรองรับประเภทและสถาปัตยกรรมของยานพาหนะได้หลากหลาย ทั้งในรูปแบบเรดาร์อัจฉริยะด้วยการประมวลผลข้อมูลในเซ็นเซอร์และในรูปแบบดาวเทียมด้วยการประมวลผลข้อมูลในหน่วยควบคุมกลาง
"เซ็นเซอร์เรดาร์ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งในอนาคตมันจะให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการจราจรที่ท้าทายมากขึ้น เช่น การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติในขณะข้ามแยก และการตรวจจับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เนิ่นๆ ที่จะทำการทดสอบโดย Euro NCAP ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ท้องถนนจะปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้นในอนาคตด้วยเซ็นเซอร์เรดาร์รุ่นที่ 6" มร. แฟรงค์ เพซนิค (Frank Petznick), หัวหน้าหน่วยธุรกิจระบบผู้ช่วยผู้ขับขี่ขั้นสูงของคอนติเนนทอลกล่าวอธิบาย
เรดาร์ระยะไกลที่ครอบคลุมการประเมินของ NCAP ในการขับขี่อัตโนมัติ
นอกจากการพัฒนาเรดาร์ระยะไกลที่มีระยะประมาณ 250 เมตร ก็ยังสามารถตรวจจับสิ่งแวดล้อมได้ 360 องศาอีกด้วย ซึ่งมีระยะที่กว้างกว่าเรดาร์ระยะสั้นรุ่นก่อน ดังนั้นจึงวางรากฐานเพื่อผลลัพท์ที่ยอดเยี่ยมในการประเมินระบบช่วยเหลือของ NCAP ในอนาคต ด้วยการตอบสนองที่มากขึ้นทำให้เรดาร์รอบทิศทางสามารถตรวจจับวัตถุได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น รถจักรยาน หรือรถจักรยานยนต์ ขณะข้ามทางแยก เป็นต้น แม้ว่าการติดตั้งที่ตัวรถอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก โดยเฉพาะพื้นที่ด้านข้างของตัวรถ แต่เรดาร์รอบทิศทางก็จะยังสามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่และขับขี่อัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ควบคุมความท้าทายของการตรวจจับสิ่งแวดล้อมแบบ 360 องศา
เพื่อให้มั่นใจว่าเรดาร์สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้ จึงต้องติดตั้งเรดาร์ไว้ที่มุมด้านหน้าและกันชนท้ายรถที่มีสีเคลือบอยู่ ซึ่งทำให้เป็นเทคโนโลยีที่ท้าทายเนื่องจากโครงสร้างและผิวเคลือบของกันชนอาจส่งผลต่อสัญญาณเรดาร์ ส่วนเรดาร์ระยะไกลจะติดตั้งอยู่ตรงกลางด้านหน้ารถซึ่งจะมีฝาครอบป้องกันเรียกว่าเรโดมที่ทำจากพลาสติกที่คลื่นวิทยุซึมผ่านได้
ยังมีวิธีการอีกหลายอย่างซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรที่จะช่วยเพิ่มการตอบสนองของเซ็นเซอร์ให้มีความน่าเชื่อถือ ถึงแม้จะโดนลดทอนจากสีของกันชนที่เคลือบไว้ อีกทั้งยังมีขนาดประมาณ 70 x 55 x 20 มม. ไม่มีปลั๊กและที่ยึดทำให้มีขนาดกะทัดรัดกว่ารุ่นที่ 5 เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ จึงอาจเป็นการรวมการทำงานเรดาร์ด้านข้าง “เรากำลังปรับเงื่อนไขเริ่มต้นในการติดตั้งเซ็นต์เซอร์เรดาร์รุ่นที่ 6 ด้วยการปรับระดับความกว้างของระยะเรดาร์เพื่อให้สามารถครอบคลุมส่วนต่างๆของรถและสอดคล้องกับ ASIL-B” เรดาร์รอบทิศทางและเรดาร์ระยะไกลได้รับการปรับให้ทำงานที่ 77-81 GHz เพื่อสามารถรองรับย่านความถี่ที่ใหญ่ขึ้น อีกทั้งเรดาร์สำหรับการจราจรยังสามารถกรองสัญญาณจากเรดาร์ตัวอื่นๆ เพื่อให้ประมวลผลเฉพาะสัญญาณของตัวเองเท่านั้นด้วยอัลกอริทึ่มอัจฉริยะ
เพิ่มความแกร่ง - การรักษาคุณภาพ
ความมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ของเซ็นเซอร์เรดาร์ที่มีอยู่ในรุ่นที่ 5 ก็จะมีในอยู่รุ่นที่ 6 ด้วย ในที่นี่หมายรวมถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำให้เซ็นเซอร์สามารถทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่แตกต่างกันได้อย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังสามารถแก้ไขการจัดตำแหน่งเซ็นเซอร์ให้เหมาะสมได้อย่างอัตโนมัติอีกด้วย
ปลอดภัยรอบทิศทาง: เรดาร์ใหม่ครอบคลุม 360 องศา ตรวจจับไกลกว่า 200 เมตร จาก Continental
การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 26 พฤษภาคม 2021
ความคิดเห็น
การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 26 พฤษภาคม 2021
-
แท็ก: