สายดื่มไม่รู้ไม่ได้ ! เมาแล้วขับ ประกันจ่ายไหม ถ้าหากว่าเกิดเหตุรถชนจนได้รับความเสียหาย

เมาแล้วขับ ประกันจ่ายไหม

การเมาแล้วขับถูกจัดว่าเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุระดับต้น ๆ เลยแหละค่ะ

สายดื่มหลายคนอาจจะสงสัยว่า การเมาแล้วขับ ประกันจ่ายไหม ? ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นมาจนได้รับความเสียหาย

ไม่ว่าจะเป็นการชนแบบมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณีก็ตามถ้าเมาแล้วขับจะยังคงได้รับความคุ้มครองหรือป่าว

เราลองมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ รับรองว่าเป็นประโยชน์แน่ ๆ

แต่ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนว่า แค่ไหน.. ถึงเรียกว่าเมาแล้วขับ ?

ตามหลักกฎหมายแล้ว หากคุณตำรวจเขาตรวจพบว่าเพื่อน ๆ มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็จะถือว่าเมาแล้วขับโดยทันที

ต่อให้อ้างว่า เดินยังตรง สติยังดี แต่ถ้าเป่าเครื่องวัด แล้วปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็เตรียมตัวโดนข้อหาเมาแล้วขับได้เลยแหละค่ะ

ถ้าพบว่า เมาแล้วขับ จนเกิดอุบัติเหตุรถชน จนรถได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 หรือประกันภัยหน้าไหน ๆ ก็ไม่ให้ความคุ้มครองค่ะ เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของตัวเจ้าของรถนั่นเอง ฉะนั้นก้มหน้ารับกรรม จ่ายเงินที่เสียหายเองไปจ้า


เมาแล้วขับ พ.ร.บ. จ่ายไหม

ถ้าเป็นการทำประกันภาคสมัครใจ เช่น ประกันชั้น 1 2+ 3+ 3 เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ถ้าเมาแล้วขับ ประกันประเภทนี้จะไม่ให้ความคุ้มครอง

แต่ว่ามีประกันอีกประเภทนึงที่ให้ความคุ้มครอง คือ ประกันภาคบังคับ อย่าง “พ.ร.บ.รถยนต์” นั่นเองที่ให้ความคุ้มครอง แต่ความคุ้มครองที่ว่านี้ จะให้ความคุ้มครองแค่เฉพาะทางด้านร่างกายเท่านั้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าเสียชีวิต หรือทุพพลภาพจากการเกิดอุบัติเหตุ พ.ร.บ. จะไม่ให้ความคุ้มครองทางด้านค่าเสียหายทางด้านทรัพย์สินค่ะ ยังไง ๆ ถ้าเมาแล้วขับ ก็ต้องเสียเงินซ่อมรถยนต์เองอยู่ดี


เจอคู่กรณีเมาแล้วขับ ต้องรับมืออย่างไรบ้าง

บางทีเราขับรถของเรามาดี ๆ แต่ก็ยังไม่วายมีพวกเมาแล้วขับ มาขับรถชนสะได้ แพรก็ขอเอาข้อมูลดี ๆ มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันนะคะว่าควรทำอย่างไรดี เมื่อเจอคู่กรณีที่เมาแล้วขับรถชน

1.ดูอาการของคู่กรณีก่อนเลยว่าเมามาก หรือเมาน้อย พอคุย พอเจรจรารู้เรื่องไหม

2.ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งให้ทราบว่าเกิดเหตุรถชน โดยแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น สถานที่เกิดเหตุ มีคนบาดเจ็บหรือไม่ ฯลฯ เพื่อที่จะได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน กันคู่กรณีหนีหาย

3.สุดท้ายก็จะเป็นขั้นตอนไกล่เกลี่ยของของผู้เสียหาย กับคู่กรณีค่ะ


จะเห็นได้ว่าการเมาแล้วขับ ประกันภัยรถยนต์ที่ทำเอาไว้จะไม่ให้ความคุ้มครอง ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเมาก็ไม่ควรขับรถจริง ๆ ค่ะ เพรานอกจากกจะไม่ปลอดภัยต่อตัวเองแล้ว ยังอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้ มันคงไม่แฟร์อ่ะเนาะ ถ้าคนอื่นต้องมาสูญเสียทรัพย์สิน หรือชีวิต จากความมักง่ายของคน ๆ นึงน่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.newlorry.com/drunk-driving-insure/