สำหรับผู้หญิงที่ขับรถเองนั้นเรามาดูพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อการเกิดอุบัติเหตุกันดีกว่า

สำหรับเรื่องของ ประกันรถยนต์ นั้นแน่นอนว่าเราต้องทำ ประกันรถยนต์ ตาม พรบ รถยนต์ กันอยู่แล้ว ส่วนใครจะทำประกันภัยภาคสมัครใจหรือไม่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเรานั้นต้องการความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นไม่ ซึ่งถ้าหากว่าเราต้องการ เราอาจจะทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 , ชั้น 2 หรือ ประกัน ชั้น 3 เป็นต้น ส่วนเราจะหาบริษัท ประกันรถชั้น 1 ที่ไหนดี นั้นเราสามารถที่จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในเรื่องต่างๆ ก่อนตัดสินใจก็ได้ และในวันนี้สำหรับใครก็ตามที่เป็นผู้หญิงและขับรถเองเป็นประจำนั้น เราก็มีพฤติกรรมที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนให้ได้ระวังกันด้วย
1. การแต่งหน้าขณะขับรถ แน่นอนว่าสิ่งนี้เราเห็นกันเป็นประจำแทบทุกเช้าบนท้องถนน คือ ผู้หญิงที่แต่งหน้าไปด้วยขณะที่อยู่หลังพวงมาลัย โดยอาศัยจังหวะรถหยุดเคลื่อนตัวเพื่อเปิดกระจกแต่งหน้า ถึงแม้ว่าผู้หญิงเองจะระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้ว แต่ทว่าเราอย่าลืมว่าบนท้องถนนยังมีผู้ขับขี่คนอื่นอีกมากมายที่อาจจะเผลอมาชนเราได้ทุกเมื่อ ซึ่งอุปกรณ์แต่งหน้าทั้งหลายนั้นก็อาจจะทิ่มเข้าลูกตาทิ่มหน้าตาจนทำให้บาดเจ็บรุนแรงได้
2. ใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถ แน่นอนว่าผู้หญิงกับรองเท้าส้นสูงนั้นเป็นอะไรที่คู่กัน แต่ทว่าการที่เราใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถนั้นมันจะทำให้เราไม่สามารถเหยียบเบรกด้วยแรงเต็มฝ่าเท้าได้ถนัดนัก ซึ่งในกรณีฉุกเฉินนั้นเราอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเราจึงควรสวมรองเท้าพื้นเรียบขณะขับรถจะดีกว่า แล้วหลังจากนั้นเราค่อยเปลี่ยนไปใส่รองเท้าส้นสูงเมื่อถึงจุดหมายนั่นเอง
3. วางรองเท้าหรือขวดน้ำไว้บนพื้น สำหรับผู้หญิงที่มีรองเท้าเก็บไว้บนรถหลายคู่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ทว่าบริเวณพื้นที่นั่งของผู้ขับขี่นั้นเราไม่ควรใช้วางรองเท้าหรือขวดน้ำใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมันอาจจะไหลไปขัดกับแป้นเบรกหรือคันเร่ง ทำให้เร่งเครื่องยนต์โดยไม่ตั้งใจ หรืออาจจะไหลไปกองอยู่ใต้แป้นเบรกนั่นเองทำให้เราไม่สามารถเหยียบเบรกได้ ฉะนั้นทางที่ดีจึงควรวางรองเท้าหรือสิ่งของใดๆ ไว้บริเวณฝั่งผู้โดยสารจะดีกว่า
4. ไม่สนใจไฟเตือนหน้าปัด โดยปกตินั้นผู้หญิงจะมีความสนใจเกี่ยวกับรถยนต์น้อยกว่าผู้ชาย จึงทำให้ไม่ทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น บางครั้งแม้ว่าหน้าปัดจะแสดงข้อความเตือนหรือปรากฏไฟสัญลักษณ์ขึ้นมา แต่ก็อาจจะไม่สนใจกับมัน ซึ่งมันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้และอาจจะทำให้รถเสื่อมสภาพอย่างที่ไม่ควรเป็นอีกด้วย
5. ไม่ดูแลรถอย่างเหมาะสม เพราะผู้หญิงโดยส่วนนั้นไะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกมากนัก แต่ทั้งนี้เราก็ควรนำรถเข้าเช็คระยะเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมันจะทำให้รถยนต์ได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้ตลอดเวลา โดยรถส่วนมากมักต้องเข้าเช็คระยะทุก 10,000 กิโลเมตร แต่ในบางรุ่นนั้นก็อาจจะขึ้นไปเป็น 20,000 กิโลเมตร ดังนั้นอย่างน้อยๆ เราควรที่จะตรวจสอบว่ารถวิ่งไปเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว เราจะได้นำรถเข้าศูนย์ได้ตรงเวลานั่นเอง