ระบบส่งกำลังแบบไหน ที่จะสามารถนำไปใช้กับรถกระบะออฟโรดที่ต้องใช้แรงบิดหลายตันเพื่อการปีนป่ายบนพื้นหินขรุขระและทางชัน ให้อัตราการเร่งที่เพียงพอและขุมพลังชั้นยอดที่ควรค่ากับมาตรฐาน Ford Performance อีกทั้งยังต้องผ่านมาตรฐานการปล่อยก๊าซไอเสียที่เคร่งครัดและต้องทำให้ได้ในระดับที่ดีเยี่ยมด้วย
ทุกองค์ประกอบของ Ranger Raptor สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในทุกแง่มุม โดยเฉพาะระบบส่งกำลังที่ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ
ทีมงาน Ranger Raptor ได้ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำในการออกแบบเครื่องยนต์ดีเซลแบบ Bi-turbo (เทอร์โบคู่) เช่นเดียวกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดสุดล้ำของ F-150 Raptor โดยเทอร์โบคู่ทำงานประสานกันเพื่อมอบพละกำลังในการขับเคลื่อนได้อย่างลงตัว ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ แน่นอนว่าระบบส่งกำลังแบบใหม่ของ Ranger Raptor คืออนาคตแห่งรถกระบะสมรรถนะสูง
นิค พอลลาร์ด หัวหน้าฝ่ายวิศวกรโปรแกรมของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ของ Ranger Raptor ประทับใจกับผลลัพธ์จากทีมงานของเขาเป็นอย่างยิ่ง
"เหตุผลที่เราใช้เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ เพราะเราต้องการพลังในช่วงรอบสูง และต้องการแรงบิดเพื่อการตอบสนองในขณะรอบต่ำได้ด้วย โดย Ranger Raptor สามารถมอบแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตันเมตร และขุมพลังสูงสุด 200 แรงม้าได้อย่างทรงประสิทธิภาพ"
พอลลาร์ดกล่าวเสริมว่า เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นเฉพาะขุมพลังและแรงบิดอันมหาศาลเท่านั้น มันยังพิสูจน์ให้เห็นถึงรถกระบะสายพันธุ์แกร่งในแบบฉบับของฟอร์ดอีกด้วย
"หนึ่งในบททดสอบสุดหฤโหดคือ เทอร์โมไซเคิล (Thermo cycle) เราให้เครื่องยนต์ทำงานติดต่อกันจนเทอร์โบทั้ง 2 ลูกร้อนจัดเป็นสีแดงและมีอุณหภูมิสูงถึง 860 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นก็ทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว เราทดสอบแบบนี้ซ้ำๆ ติดต่อกัน 2 สัปดาห์หรือ 200 ชั่วโมง และพบว่าเครื่องยนต์เทอร์โบคู่นี้สอบผ่านแบบฉลุย" เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ของ Ranger Raptor คือผลงานด้านศาสตร์และศิลป์ในงานวิศวกรรม ที่พิสูจน์ตัวมันเองมาแล้วในรถรุ่น F-150 Raptor และ Mustang มาจนถึง Ranger Raptor ที่ Ford ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตคือเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งทำให้มีความทนทานมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบาขึ้น และกระชับมือมากกว่าเกียร์แบบเก่าที่ทำจากเหล็กหล่อ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงสมรรถนะและความสามารถในการประหยัดเชื้อเพลิงจากอัตราทดเกียร์ที่แคบลงด้วย
ดาเมียน รอส หัวหน้าทีมวิศวกร Ford Ranger Raptor กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีความสำคัญอย่างยิ่งในการมอบแรงบิดและประสิทธิภาพอันทรงพลังของ Ranger Raptor
"เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดนี้รองรับการเดินทางทุกรูปแบบ ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือที่ใดก็ตาม หากคุณกำลังไต่อยู่บนที่สูงชันหรือเต็มไปด้วยหินขรุขระ แรงบิดที่ช่วงรอบต่ำสามารถช่วยคุณได้ หรือถ้าหากคุณขับรถด้วยความเร็วสูง เกียร์ที่ 9 และ 10 จะช่วยให้เครื่องยนต์ผ่อนคลายและช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม มันสามารถทำงานเปลี่ยนสลับกันได้อย่างสวยงาม คุณจะพบว่าการขับรถกระบะคันนี้ไม่เหมือนกับรถกระบะคันไหนๆ เลย"
สำหรับ Ranger Raptor สามารถขับไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมือง ในป่า เลียบชายหาด หรือขับด้วยความเร็วสูงบนสนามทะเลทราย ระบบกันสะเทือนและระบบส่งกำลังแบบใหม่ของ Ranger Raptor พร้อมให้แฟนๆ แร็พเตอร์ทั่วโลกได้สนุกกับการขับขี่ทั้งทางเรียบและออฟโรด
Ford Ranger Raptor อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสายพันธุ์แกร่ง พร้อมระบบส่งกำลังแบบใหม่รองรับทุกการขับขี่สุดเร้าใจ
การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 27 พฤศจิกายน 2018
ความคิดเห็น
การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 27 พฤศจิกายน 2018