โมล่างหรือโมบน อันไหนเวิร์คกว่ากัน โมล่างคือ เปลี่ยนลูกสูบ (over size+forge) กับเปลี่ยนก้านสูบและก็กล่อง ECU ส่วนโมบน คือ เปลี่ยนแคม วาล์ว พูเล่ย์ และก็สายพานราวลิ้น step ไหนน่าทำมากกว่า และอันไหนลงทุนน้อยกว่า ขอความรู้หน่อยครับ (แค่ถามเฉยๆ อย่าเพิ่งแซว)
โ ม ล่ า ง ถู ก ก ว่ า บ น เ พ ร า ะ มี เ เ ค ม ก็ ต้ อ ง มี ส ป๊ อ ก เ ก็ ต เ เ ค ม เ เ ล้ ว พ อ เ เ ค ม ก ด เ ย อ ะ ก็ ต้ อ ง มี ส ป ริ ง ว า ล์ ว มี ส ป ริ ง ว า ล์ ว ก็ ต้ อ ง มี รี เ ท น เ น อ ร์ เ เ ล้ ว ก็ ต้ อ ง มี . . . ส า ย พ า น ท า ม มิ่ ง เ เ ต่ ง เ พ ร า ะ ร อ บ มั น จื๊ ด ไ ม่ งั้ น ข า ด . . . . มี เ เ ค ม ก็ ต้ อ ง ขั ด ฝ า เ ปิ ด พ อ ร์ ต . . . . เ ห อ ๆ ห ล า ย อ ย่ า ง ส รุ ป เ เ ล้ ว ทำ ท่ อ น บ น เ เ พ ง ก ว่ า เ เ ต่ เ ห็ น ผ ล ชุ ด เ จ น ก ว่ า
คำถามแบบนี้..ผมช๊อบ ชอบ ขอตอบจากประสบการณ์ และความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ทำท่อนบน(แคม สปริงวาล์ว รีเทนเนอร์ พอร์ท วาล์ว) ทำแล้ว เห็นผลว่าแรงขึ้นแบบชัดเจน เพราะทุกอย่างที่ว่ามา มีผลช่วยให้อากาศเข้าไปสันดาบกับน้ำมันได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้กำลังเครื่องยนต์มากขึ้นตามไปด้วย ราคาของที่ต้องใช้ โดยประมาณ(คิดราคาของใหม่นะครับ) แคมซิ่ง 25000 สปริงวาล์ว 8500 รีเทนเนอร์ 7500 ค่าแรงทำพอร์ท ถอดฝา ปะเก็น 10000 - 12000 เฟืองแคมสไลด์ ของไทย 2000 ไต้หวัน 4500 ญี่ปุ่น,เมกา 10000 วาล์วซิ่ง ชุดละ 15000 สายพาน Timing แต่ง(จะใส่ หรือไม่ใส่ก็แล้วแต่) 6500 - 8000 ส่วนที่นอกเหนือไปจากนี้ ก็จะเป็นท่อร่วมไอดี และลิ้นปีกฝีเสื้อ สองอย่างนี้ก็เป็นเหมือนประตูแรก ที่จะให้อากาศเข้าเครื่องยนต์ ถ้าทำฝามาตามข้างบนแล้วไม่ได้เปลี่ยน 2 อย่างนี้ ก็จะไม่ครบ และ อาจจะจูนแล้วไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ราคาโดยประมาณ ลิ้นฝาแดง 3500, ลิ้นแต่งไทย 7500, ลิ้นแต่งนอก 1200 ท่อร่วมไอดีฝาแดง 6500, ท่อร่วมของนอก 12500 ส่วนเรื่องท่อนล่าง เด๋วเย็น ๆ จะมาอธิบายก็แล้วกันนะครับ เอาเรื่อง ท่อนบนก่อน ถ้าใครมีคำถามอะไรก็โพสไว้ได้เลยครับ ตอบได้ก็จะตอบ ให้ฟังครับ หรือสมาชิกท่านอื่น ๆ มีความคิดเห็นยังไง ก็เชิญเพิ่มเติมได้นะครับ
โมล่างครับ เห็นผลชัดเจน ได้ความเร็วปลายมากขึ้นเยอะ และก้อเสียตังค์แยะ ส่วนโมบน ได้จิ๊ดขึ้นมาหน่อย เพราะเสียตังค์น้อยกว่า อิๆ
อืม........บางคนว่าโมท่อนล่างดีกว่า บางคนก็ว่าโมท่อนบนเวิร์คกว่า มันยังไงกันแน่ เริ่มสับสนแต่ขอขอบคุณทุกคำตอบแล้วกัน มีใครว่าอย่างไงกันอีกครับ ผมจะรออ่านคำตอบไปเรื่อยๆ Thanks
ของพี่โต้ง ทำท่อนล่างมาแล้ว ทำฝาต่อดีกว่า ครับ ( ผมไม่รู้พี่โต้งทำไรมาบ้างแต่ ท่อนล่าง 20 แน่ๆ) เห็นผล แต่ราคาสูงกว่า นี่ยังไม่เกี่ยวกับเหนียวไม่เหนียว นะครับ
มาต่อกันที่ท่อนล่างกันบ้างครับ ท่อนล่าง ถ้าจะให้ครบ ๆ ก็ควรจะมี ลูกสูบ ก้านสูบ ข้อเหวี่ยง ชาร์ฟ บล๊อคการ์ด แต่ละอย่างก็มีผลดีใน ด้านต่าง ๆ กันไป ว่ากันเรื่องราคาค่าตัวแต่ละอย่างกันก่อน เอาราคากลาง ๆ สำหรับของใหม่นะครับ อาจจะบวก ลบนิดหน่อย แล้วแต่รุ่น แล้วยี่ยี่ห้อ ลูกสูบ Forged 25000 ก้านสูบ H-Beam, I-Beam, X-Beam 18000 ข้อเหวี่ยง ถ้าเอาของเดิมไปปัดเงา บาลานซ์ 6500 ถ้าเป็นของแต่งก็ 45000 ชาร์ฟซิ่ง 10000 บล๊อคการ์ด บ้านเรา 4500 ของนอก 8500 - 15000 แล้วแต่ละอย่าง ใส่แล้วมันดียังไง ขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมใช้ความรู้สึก และประสบการณ์อันน้อยนิดของผมเป็นตัวตัดสิน อาจจะไม่ตรงกับหลักวิชา เป๊ะ ๆ เอาเป็นว่าแชร์ความรู้ เท่าที่รู้ให้ฟังก็แล้วกัน ลูกสูบ Forfed อันนี้ส่วนมากถ้าเป็นสำหรับเครื่อง Honda N/A จะเป็นแบบ หัวนูน เพื่อช่วยเพิ่มกำลังอัดของเครื่องให้สูง การเพิ่มกำลังอัดให้สูง เปรียบเทียบ ง่าย ๆ ก็เหมือนการจุดประทัด จุดประทัดในที่โล่ง ๆ กับจุดไว้ในที่แคบ ๆ กำลัง อัดในที่แคบ ๆ มันเยอะกว่า การระเบิดมันก็รุนแรงกว่า ได้พลังงานมากกว่านั่นเอง อีกข้อดีของลูกสูบประเภทนี้คือแข็ง และทนทาน รวมถึงน้ำหนักเบา ทำให้ลดภาระ ของเครื่องยนต์ได้ด้วยครับ แต่ก็ใช่ว่าลูกประเภทนี้จะพังไม่เป็นนะครับ พังได้ เหมือนกัน เพียงแต่ว่ามันพังยากกว่าลูกเดิมเท่านั้นเอง
ก้านซิ่ง ในความคิดผมมันไม่น่าจะช่วยในเรื่องความแรง น่าจะช่วยเรื่อง ความแข็งแรงมากกว่า เพราะมันจะถ่ายทอดแรงจากหัวลูกสูบ มาที่ข้อเหวี่ยง ถ้ากำลังอัดสูง ๆ หรือใช้รอบจัด ๆ ควรจะเปลี่ยนครับ แต่ถ้าไม่ได้ใช้งานโหดมาก ก้านเดิมปัดเงา และบาลานซ์น้ำหนักดี ๆ เท่าที่ ใช้มาก็พอจะใช้ได้ การปัดเงาก็จะช่วยลดแรงเครียด จากรอบขรุขระของก้าน แล้วยังทำให้น้ำมันเครื่องไหลออกจากก้านได้เร็ว ช่วยลดความร้อนสะสมได้ อีกทางหนึ่งครับ
มาต่อกันที่ข้อเหวี่ยง ข้อเหวี่ยงซิ่งพวก Stroke Kit คงไม่ต้องพูดถึง มันดีอยู่แล้ว เอาเป็นเรื่องการ Balance ข้อเหวี่ยงเดิมดีกว่า การเอาข้อ เหวี่ยงเดิมไปทำการ Balance และลดน้ำหนัก บางคนอาจจะคิดว่าไม่ เห็นผล เพราะโรงงานเค้าก็ทำการ Balance มาแล้ว...จริงครับ โรงงาน ทำการ Balance มาอย่างดีแล้ว แต่การที่เรานำมาลดน้ำหนัก ก็เพื่อลดโหลดให้กับเครื่องยนต์ การ Balance ของโรงงาน เค้าทำมาสำหรับรอบเดิม ๆ ที่เครื่องเดิมสามารถปั่นได้ อาจจะ เต็มที่แค่ 5000 - 7000 รอบเท่านั้น แต่รถที่ทำเครื่องมาอาจจะใช้รอบ 8000 หรืออาจถึง 9500 รอบ ซึ่งตรงนี้อะพบปัญหาชาร์ฟละลาย จากการลากรอบสูง เนื่องจากข้อเหวี่ยงเกิดการแกว่งตัว หมุนไม่นิ่ง ชาร์ฟก็รับภาระมากขึ้น เกิด ความร้อนสูง จนละลายไงล่ะครับ จากประสบการณ์ที่เคยใช้มา ข้อเหวี่ยงที่ Balance และลดน้ำหนักมาแล้ว รอบเครื่องละลื่นขึ้น และกวาดไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
ส่วนตัว ถ้าจะถามว่าทำท่อนบน หรือท่อนล่างก่อนดี ถ้าให้เลือกเพียงอย่างเดียว ผมเลือกที่จะทำท่อนบนก่อน เพราะถึงข้อเหวี่ยงดี ลูกสูบดี ก้านสูบดี แต่ท่อนบน ไม่สามารถป้อนไอดี และระบายไอเสียออกได้ทัน ก็ไม่แรงครับ ท่อนบนดี ของครบ ก็เหมือนเครื่องมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว คราวนี้ค่อยมาเลือกว่า จะใช้ลูกสูบกำลังอัดเท่าไหร่ จะเพิ่มความจุดีไหม จะทำอะไรมันก็ง่ายแล้วล่ะ แต่ถ้าพื้นฐานทำมาไม่ดี จะเซ็ทให้มันลงตัว คงต้องใช้เวลา และเงินมากกว่าครับ ป.ล. แค่ 1 ความเห็นส่วนตัว นะครับ ไว้รอท่านอื่นมาเสริมก็แล้วกัน
Clear ครับคุณเต้สำหรับข้อมูล ขอบคุณมากสำหรับคำตอบ ผมลองคำนวณดูแล้วตามข้อมูลของคุณ ทำท่อนบนแพงกว่าทำท่อนล่างเพราะรายการที่ต้องทำมันเยอะกว่า (ถ้าไม่รวมการเปลี่ยนกล่อง ECU ประเภทแพงๆเข้าไปด้วยกับการโมท่อนล่าง) สัดส่วน 8 หมื่นกว่าปลายๆ กับ หกหมื่นกว่ากลางๆ
อย่าลืมนึกถึงระบบส่งกำลัง และระบบอื่น ๆ ด้วยนะครับพี่โต้ง รถแรง แต่เอา ม้าลงพื้นไม่ได้ ก็วิ่งไม่ออกนะครับ ครัชดี ๆ ยางดี ๆ ช่วงล่างดี ๆ ค่อนข้าง จะสำคัญครับ แล้วก็ค่าจุกจิกต่าง ๆ พวกปั๊มน้ำมันเครื่อง จะให้ดีก็น่าจะเปลี่ยน จะใช้ของแต่ง หรือรองแผ่นชิมของเดิมก็ตามกำลังทรัพย์ หัวเทียนดี ๆ สักชัด อาจจะใช้คอล์ย เดิม หรือเปลี่ยนเป็นคอล์ยแยกพร้อม CDI หรือ Twin Power ก็ได้ครับ เพื่อ ความสมบูรณ์ของทุก ๆ ระบบต้องไปด้วยกัน
ขอบคุณท่านอื่นๆ ด้วยนะครับที่ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์มาตรงนี้ เพิ่อความรู้ในการโมดิฟายเครื่องยนต์สำหรับพวกเราๆ ที่ยังไม่รู้อะไรมากในเรื่องนี้
ผมว่าการทำเครื่องรี่มันต้องทำกันไปพร้อมๆ กันทุกส่วนนะครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำเต็มทั้งท่อน บน-ล่าง ทีเดียว ถ้าเงิน ถึงก็ดี แต่ส่วนมากจะติดที่งบประมาณกัน ตามความคิดผม ถ้าจะทำ ก็เก็บเงินทำทีเดียวไปเลย เช่น ทำท่อนบน ก็ทำ ฝาให้มันเต็ม เปลี่ยนแคม สปริง รีเทนเนอร์ ทำกำลังอัดดีๆ + จูนกล่องหรือทำรอมใหม่ก็แรงขึ้นเยอะแล้ว ดีกว่าเปลี่ยนแคม เสดแล้วมายกฝาใหม่ เปลี่ยนสปริง รีเทนเนอร์ ทำฝาทีหลัง เสียค่าจูนหลายรอบ แล้วก็บอกว่าใส่แคมซิ่งแรงขึ้นนิดเดียว เครื่องไม่ทน ทุกๆ อย่างต้องสมบูรณ์ควบคู่ กันไปครับ คราวนี้พอท่อนบนเสดแล้ว ถ้าอยากขยับต่ออีก เราค่อยมามองที่ท่อนล่าง ว่าจะทำอะไรต่อ ลองดูครับ ถ้าให้ผมเชียร์ ทำฝาก่อนเลย แต่ทำให้ครบครับ รับรองแรงงงง
บ อ ก เ เ ล้ ว ห ล า ย อ ย่ า ง เ เ ต่ เ เ น ะ นำ ทำ ท่ อ น บ น ก่ อ น ดี ก ว่ า อ ย่ า ลื ม ว่ า จุ ด อ่ อ น ข อ ง B มั น อ ยู่ ที่ รี เ ท น เ น อ ร์ เ มื อ ไ ร ที่ เ ห ล็ ก มั น ล้ า ล ะ ก็ ปุ๊ บ . . . . เ เ ต ก ว า ล์ ว ร่ ว ง ไ ป จู บ กั บ ลู ก . . . . ลู ก ยิ้ ม เ ผ ล อ ๆ อ า จ ท ะ ลุ อ อ ก ม า ยิ้ ม หั้ ย เ จ้ า ข อ ง ร ถ ดู เ ล ย ล ะ