หลังจากที่แนะนำเพื่อนๆที่ทำงานไป ก็คงต้องถึงคราวของเราบ้างเริ่มเลยที่ว่า แอร์รถของผมโดยปกติก็เย็นอยู่แต่ก็เจอแดดไม่ต้องพูดถึงเลยเย็นจนน้ำหยด ( เหงื่อ อิๆๆ ) ก็เลยไปที่ร้านแอร์แถวที่ทำงาน ปรากฏว่าช่างที่ร้าบอกน้ำยาจะหมด ผมก็เลยบอกให้ทางร้านเติมน้ำยาเลย ใช้เวลาในการเติมไม่ถึง 5 นาทีเรียบร้อยครับช่างของเข้าไปในตัวรถแล้วใช้ผิวหนังอันบอบบางของช่าง ทดสอบ บอกว่าเย็นฉ่ำเลย ผมก็ดีใจจ่ายเงินค่าน้ำยา 350 บาท แล้วก็ออกจากร้าน นั่งกระหยิ่ม ในใจว่า เอาว่ะ ไม่ต้องทนร้อนอีกต่อไป ซึ่งก็เป็นจริงตามคาดว่าเย็นจริงแต่...เลี้ยวรถเลยโค้งมานิดเดียว ก็ได้ยินเสียงคล้ายสายพานดัง เอี๊ยดด!!.. ดังแค่ระยะสั้นๆ ก็คิดว่าหูแว่วก็ไม่ได้ใส่ใจ จนกระทั่งกลับบ้าน พอตอนดึก ก็มาทำธุระที่ข้างนอกก็เปิดแอร์ขับรถ ซึ่งก็เย็นจริงๆครับ แต่ก็เย็นได้ไม่นาน ก็รู้สึกได้ในทันทีว่า แอร์ไม่เย็นทั้งๆที่แอร์ยังไม่ตัด แต่ขับมาสัก 10 กว่านาทีก็เย็นเหมือนเดิมเริ่มแปลกใจแระ จนกระทั่งกลับบ้าน พอรุ่งเช้าสตาร์ทรถก็ได้ยินเสีงอันไม่พึ่งประสงค์ ดังขึ้นมาดังเอี๊ยดดดดดด... ประมาณ เกือบนาทีแล้วก็เงียบ แอร์ก็ไม่เย็น เลยตัดสินใจไปให้อีกร้านดู (ซึ่งก็รู้จักเขาดี) เขาก็จัดการเช็คให้ ผลปรากฏว่า เขาบอกลูกปืนตรงลูกรอกพังก็จัดการเปลี่ยนให้ เสียตังไป 300 ทีนี้อาการก็ดีขึ้นไม่มีเสียงให้รบกวน ดีใจมากครับแอร์เย็นสบาย แต่.....ดีใจได้สองวัน วันที่สามก็เกิดอาการอีก แบบว่าพอเปิดแอร์แล้วได้ยินเสียงดังเอี๊ยดดด แล้วฉุดให้เครื่องดับ อาการชักหน้าเป็นห่วง..พูดง่ายๆว่าเปิดแอร์เมื่อไหร่ จะมีเสียงเอี๊ยด แล้วเครื่องดับ... เอาล่ะซิ...น้องแดงของเราเป็นรัยหว่า...ก็เลยสอบถามช่างแถวบ้านดู คำตอบที่ได้ก็คือ เพ่...คอมแอร์พี่พัง!!!!!... เวรล่ะซิ งานเข้าเงินหมดอีกเป็นแน่แท้ เลยลองหยอดคำถามไปดูว่า ประมาการซ่อมจะอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งช่างก็บอกว่า คอมแอร์ก็ประมาณ สองพัน สามพันโดยประมาณ ค่าแว๊กน้ำยาอีกก็พันหน่อยๆ (ไม่รู้ว่าหน่อยสองพันรึป่าว อิๆๆ) ค่าแรงก็ไม่แพงหรอกครับ ..............ยืนนึกอยู่ว่าต้องมีเงินอย่างน้อยประมาณสัก 7000 น่าจะพอ ก็เลยขอตัวมาแค่กระปุก เพื่อรวบรวมเศษตัง ช่วงที่กำลังแคะกระปุกอยู่นั้น ฉับพลันสมองซีกซ้ายที่ตรงหลืบขวา ก็คิดถึงพี่ทรัพย์ ( ช่างแอร์ตัวจริง ) ซึ่งตอนนั้นแค่กระปุกออกมาได้เงินประมาณ สี่พันกว่าบาทแระ ก็ต้องหยุดแค่ทันที รีบหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่ทรัพย์ทันใด ก็เล่าอาการให้พี่ฟัง คำตอบเดียวที่ได้คือ คอมแอร์พังแน่นอน ก็เลยถามว่าพี่พอช่วยได้ไหม พี่ทรัพย์ก็ใจดีเอื้อนเอ่ยบอกให้ไปซื้อคอมแอร์มา แล้วก็ค่อยคุยกัน ซึ่งพี่ทรัพย์ก็บอกชื่อร้านให้ไปซื้อ ผมก็ถามว่าวันอาทิตย์ร้านไม่ปิดหรอครับ พี่ทรัพย์ก็บอกว่าไปเหอะ ........................................... สุดท้ายก็กล่าวขอบคุณพี่ทรัพย์ เช้าวันอาทิตย์รีบตื่นแล้วก็บึ่งรถไปยังร้าที่พี่เขาบอก ก็ได้ของตามรุ่นที่ต้องการ คือคอมแอร์หนึ่งตัว ราคา 1800 บาท ไดเออร์อีกหนึ่งตัว 200 บาท จากนั้นร้านก็ฝากของมาให้พี่ทรัพย์อีกหนึ่งกล่อง แล้วผมก็ต่อสายหาพี่เขาทันที พี่ทรัพย์ก็บอกให้เข้าไปหาได้เลย .....ซึ่งเวลานั้นก็ประมาณเที่ยงกว่าๆ ....มาถึงบ้านพี่ทรัพย์ในเวลาไม่นานซึ่งตอนนั้นมีรถจอดอยู่ประมาณ 7-8 คัน แล้วผมก็อธิบาย ทุกอย่างให้พี่เขาฟัง พี่ก็บอกไม่ยากคับเดี๋ยวเปลี่ยนคอมแอร์ ณ ตอนนั้นทีมงานที่บ้านพี่ทรัพย์ก็ง่วนกับ รถคันอื่นอยู่ ซึ่งถ้าใครว่างก็จะมาล้างแผงแอร์รอไปประมาณสามรอบ ...................... กว่าจะมาลุยรถผมได้ก็ประมาณบ่าย สามกว่าๆ ซึ่งก็มีทีมงานมาประจำที่รถผมชื่อเป้ ............... ก็มาถามว่าเปลี่ยนคอมแอร์หรอพี่ ผมก็บอกว่าครับ พี่ทรัพย์ก็เดินมาบอกว่าจัดการเลย เอาล่ะทีนี้ก็เริ่มบันเลงถอดออกมา และเมื่อถอดออกมาแล้วทันใดนั้นเอง ทีมงานและพี่ทรัพย์ ถึงกับตะลึง บอกว่าคอมลูกนี้ของใครผมเองซึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นก็ได้แต่ยิ้มหน้าแหย่ๆ บอกว่าผมเอง พี่ทรัพย์เดินมาบอกผมว่า งานเข้าแล้ว งานนี้มีดึก....ซวยเลย
รถผมก็มีอาการแบบที่ว่านี้และครับต้องติดตามไม่ให้พลาดตอนต่อไปมีหวังเสียตังแบบนี้แน่นอนเลยตูอืกไม่อยากคิดมาก
อาการเดียวกันคับ คอมพัง น้ำมันเข้าไปในระบบ ไล่ระบบกันยาว แต่ร้านอะไหล่แอร์ที่ไปซื้อ ของถูกมากๆคับ คอมใหม่ตัวละ 1800 เอง ผมซื้อเชียงกง ปาไปจะ 2 พันอยู่แล้ว ไดเออร์ใหม่อีกตัวละ 400- ค่าแรง+ไล่ระบบ+เติมของเหลวต่างๆ อีกปามาน 1000 นึง ส่วนของคุณเบ็ดเสร็จกี่ตังค์คับเนี๊ยะ
หวัดดีครับ ตกลงกลายเป็นนิยายเรื่องจริงไปซะแล้วหรอครับ คริๆๆ ต้องขอโทษครับที่ทำให้รอ มาต่อดีกว่า ว่าแต่ไปถึงไหนแระ............. อืม..อ๋อ ผมก็เลยถามพี่ว่า เอางั้นเลยหรอครับพี่ จ้างนั้นพี่ทรัพย์ก็ยืนมองๆ แล้วตะโกนเรียกทีมงานคนนึง " เป้ๆๆ" แล้วช่างเป้ก็เดินมาคุยกับพี่ทรัพย์พอจับใจความว่า... ไม่ต้องรื้อทั้งหมด ให้จัดการล้างท่อและภายในให้หมด ช่างเป้หนึ่งในทีมงานก็เข้ามาและคุยกับผมว่า ดีนะพี่ไม่ต้องรื้อหมด ไม่งั้นจะยุ่งยาก..ว่าแล้วช่างเป้ก็จัดการโดยไปเอาน้ำมันอะไรบางอย่าง ซึ่งดูคุ้นตามาก ผมก็เลยถามว่าน้ำมันอะไรหรอ ช่างเป้ก็บอก เบนซิน มาใส่ท่อแอร์ ที่เอาน้ำมันมาใส่เพราะว่าข้างในมันมีแต่น้ำมันดำมากๆ แบบว่าเหมือนน้ำมันเครื่องเสียๆ ซึ่งก็ต้องล้างให้สะอาดคือไม่ให้มีน้ำมันดำๆหลงเหลืออยู่ พอเอาน้ำมันใส่แล้วจากนั้นก็นำสายยาง ซึ่งปลายท่อต่อมาจากถังอ๊อกซิเจนจากนั้นก็เปิดออกซิเจนเข้าท่อ เพื่อไล่น้ำมันดำๆออกให้หมด ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน ผลสรุปหมดน้ำมันไปประมาณ 3 ลิตร ผมก็ไม่รู้นะว่ามันมากหรือน้อย เพราเห็นช่างเป้ตะโกนบอกพี่ทรัพย์ว่าน่ายกปั๊มมาไว้ที่บ้าน อิๆๆ เมื่อล้างภายในท่อและตามสายแอร์เสร็จก็ปล่อยทิ้งไว้สักครู่แล้วก็เปิดอ๊อกซิเจรไล่ตามท่ออีกรอบคงเพื่อให้กลิ่นมันหมดรึป่าวไม่รู้นะ อันนี้ผมเดาเอา และทุกขั้นตอนในการทำผมก็ได้นั่งอยู่ดูทุกอย่าง จากนั้นช่างก็ไปจัดการทำรถคันอื่นต่อเพราะมีรถเข้ามาใน วันอาทิตย์เยอะครับ ก็สักครู่ใหญ่ๆ กพี่ทรัพย์ก็เดินมาถามว่าเรียบร้อยรึยัง ผมก็บอกว่ายัง พี่เขาก็บอกงั้นรอสักครู่ ซึ่งเวลานั้น ก็ประมาณหกโมงได้แล้วมั้ง จากนั้นช่างเป้ก็มาจัดการต่อโดยประกอบทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วพี่อีกคนก็เดินมาแล้วต่อท่อเพื่อลองเช็ครั่ว ณ ตอนนั้นบอกตรงๆเลยครับ ดีใจที่ใกล้จะเสร็จ และก็จะได้ความเย็นดั่งใจหวัง...แต่.......... พี่คนที่ต่อท่อเช็ครั่วมาบอกว่ามีรอยรั่ว เวรเลย ผมยังคิดเลย ซวยแล้วไหมล่ะ ..และ ณ ตอนนั้นพี่ที่เช็ครั่วก็เดินไปหยิบถังน้ำตีฟอง เพื่อคอยมาลูบไล้ ( คงคล้ายๆกับการลูบคลำนวลน้องอ่ะนะ อิๆๆ) ตามท่อและข้อต่อต่างๆ ....... และแล้วก็เจอจุดที่รั่วจนได้ก็คือ ก็คือสายที่ต่อจากคอมแอร์ไปยังแผงระบายหน้ารถ ต่างคนต่างก็ดีใจครับที่เจอรอยรั่ว จากนั้นก็จัดการถอดสายออกมาแล้วจัดการ ต่อใหม่โดยตัดตัวเดิมทิ้งแล้วก็เปลี่ยนสายใหม่พร้อมกับย้ำตรงรอยต่อ (ไม่รู้เรียกว่าอะไร ผมต้องขอโทษด้วยเพราะเรียกไม่ถูก) แทนที่จะเรียบร้อยเชื่อไหมว่าตรงปลายอีกข้างมันงอเป็นตัวยู ทำให้เข้าเครื่องที่ย้ำตรงข้อต่อไม่ได้ (งานเข้าอีกแล้ว เวรจริงๆ) ช่างเป้ก็เรียกพี่ทรัพย์มาช่วยดู พี่เขาก็นั่งคิดอยู่พักใหญ่ ก็เลยถามช่างเป้ว่าร้านเชื่อมท่อปิดรึยัง ตอนนั้นผมล่ะกลัวเลยว่าจะปิด ช่างเป้ก็บอกว่าน่าจะปิดแล้วนะ เพราะตอนนั้นก็ประมาณทุ่มนึงเห็นจะได้และอีกอย่างเป็นวันอาทิตย์ด้วย แต่พี่ทรัพย์ก็รีบบอกให้ช่างเป้ รีบขับรถไปดูพร้อมกับเอาสายไปให้ตัดต่อเชื่อมเป็นหัวเกลียว เฮ้อออ จะรอดป่าาวนะ....และแล้วอีกประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา ช่างเป้ก็กลับมาพร้อมปลายท่อที่ตัดต่อให้เป็นเกลียวตัวผู้ ส่วนอีกด้านพี่ทรัพย์ก็ยรอยต่อเป็นตัวเมีย แล้วนำมาประกอบกัน ซึ่งตอนนั้น พี่ทรัพย์ยังพูดว่าถ้าเราไม่รู้จักประยกต์กัน รับรอบผู้บริโภคอย่างเราตาย....และเมื่อประกอบสายเสร็จแล้ว ก็นำมาประกอบสายเข้าคอมแอร์ และแผงระบายร้อน จากนั้นก็เช็ครั่วอีกที คราวนี้ผ่านครับ ไม่มีรั่วแล้ว เมื่อประกอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วต่อจากนั้น ทีมงานอีกคน ก็มาเติมน้ำมัน แล้วก็เติมน้ำยาแอร์ ทีนี้ก็ให้สตาร์ทเครื่องพร้อมเปิดแอร์จากนั้นก็เอา เทอร์โมมิเตอร์มาวัดซึ่งตอนแรกวัดได้ 32 องซาซี จากนั้นอุณภูมิก็เริ่มลงมาเรื่อยๆจนได้ที่ 8.3 องซาซี ....ว๊าววววว....เป็นอันเสร็จ...พี่ทรัพย์เดินมาถามว่าพอใจมั๊ย ผมตอบได้เต็มปากเลยว่า โคตรจะพอใจเลยล่ะพี่อิๆๆๆจากนั้นก็เดินมาคุยเรื่องค่าเสียหายกับพี่(ในใจนะผมลองคิดกลับกันว่าเป็นร้านที่อื่นคงประมาณ ไม่ต่ำกว่าห้าพันเป็นแน่) ซึ่งราคาค่าของและอุปกรณ์ทุกอย่างพี่เขาแทบจะไม่ชาร์ตเลย ลองมาดูราคานะครับ มีเบนซิน (ล้างน้ำมันดำๆในท่อ) เห็นว่าพี่เขาควักเงินให้ช่างเป้ไปซื้อ 3 รอบ รอบล่ะ 40 บาท เป็นเงิน 120 บาท เชื่อมหัวแพ บวก หัวแพ 100 บาท เฟรชเชอร์สวิทตรงไดร์เออร์ 150 บาท สายแอร์ 134A 80 บาท ย้ำหัวสายสองข้างพร้อมปลอก 80 บาท แว๊กซ์เติมน้ำยา + น้ำมันคอม + ล้างระบบ 650 บาท ค่าแรง 500 บาท รวมทั้งหมด 1680 บาท แต่พี่เขาลดให้ 80 เหลือ 1600 บาท ส่วนคอมแอร์พร้อมไดเออร์ 1800+200 = 2000 บาท ( อันนี้พี่เขาแนะนำร้านแล้วก็ให้ไปซื้อเองครับ) สนน ค่าเสียหายทั้งสิ้น 3600 บาท พี่น้องก็ลองดูนะว่าราคานีเหมาะสมไหม สำหรับผมมันเกินคุ้มครับ เพราะร้านข้างนอกที่ผมไปถามราคามาก็ มีดังนี้ คอมสองพันกว่าถึงสามพัน แว๊กซ์น้ำยาอีก พันกว่า ยังไม่รวมสิ่งของปลีกย่อยอีกและค่าแรง ที่สำคัญ จะทำอย่างที่เราเห็นที่พี่ทรัพย์ทำรึป่าว เอาล่ะ ใครสนใจก็ลอง เช็คดูอีกทีหรือโทรถามหรือคุยกับพี่เขาก่อนก็ได้นะครับ ปัจฉิมลิขิต...ขอบคุณพี่ทรัพย์และทีมงานทุกคนนะครับ ที่ทำให้ความร้อนภายในรถของผมหมดไป และขอให้พี่เป็นขวัญใจ มวลชนและเหล่าบันดาคนช่างร้อนตลอดไปครับ ******* คำเตือน สำหรับคนที่จะมาทำ******** 1.ขอให้ใจเย็น เพราะบางทีอาจจะนาน ( เพราะมีรถเยอะจริงๆ) 2.เตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อมก่อนมาทำ 3.เตรียมค่ารักษาพยาบาลด้วย ( เนื่องจากความเย็นอาจทำให้ปอดคุณบวมหรือไม่สบายโดยกระทันหัน) 4.โลชั่นทาผิว กันผิวแตกและแห้งเพราะอากาศเย็น
อุณภูมิที่ได้ [media]http://img210.imageshack.us/img210/5632/dsc00572lk4.jpg[/media] อ้าว...ไงภาพเล็กจังหว่า ลองคลิกที่ภาพดูนะครับ
สุดท้ายกับราคาที่น่าตกใจ !!! [media]http://img84.imageshack.us/img84/1039/dsc005791bv7.jpg[/media] อ้าว...ไงภาพเล็กจังหว่า ลองคลิกที่ภาพดูนะครับ