พี่หนึ่งช่วยแปลทีคับ http://images.google.co.th/imgres?i...ev=/images?q=vtec+pictures&svnum=10&hl=th&lr=
เอาที่จำได้คร่าวๆนะครับ ผมไม่ได้เข้า link ที่ให้ไว้ รูปด้านซ้ายมือเป็นเครื่องยนต์แบบธรรมดา เมื่อแคมชาร์ฟหมุน โหนกแคม (สีฟ้า) ก็จะกดกระเดื่องวาวล์ (สีฟ้า) เจ้ากระเดื่องวาวล์ก็จะไปกดวาวล์ให้เปิดอีกทีนึง รูปด้านขวามือเป็นเครื่อง VTEC ในขณะรอบต่ำ ก็จะทำงานเหมือนเครื่องยนต์ธรรมดา โดยกระเดื่องวาวล์พิเศษของ VTEC (สีฟ้า) ที่อยู่ตรงกลางจะลอยตัว ทำให้ไม่มีผลต่อการทำงานของเครื่อง เมื่อใช้รอบสูงขึ้น โซลินอยด์ VTEC จะเปิดน้ำมันเข้าไปสู่กระเดื่องวาวล์ทั้งหมด ให้ทำการล็อคกระเดื่องทั้ง 3 ตัวเข้าด้วยกัน ดังนั้นกระเดื่องวาวล์ซ้าย-ขวา ก็จะเปิดตามตัวตรงกลาง และแคม VTEC (สีส้ม) ก็จะมีองศาและลิฟมากกว่าแคมปกติ จึงทำให้วาวล์ เปิดนาน และเปิดมากกว่าปกติครับ
อืมมมมม...........มันมาด้วยแรงดันน้ำมันนี้เอง..... ในลิงค์มันขยับให้ดูคับ แต่ไม่รู้ว่ามันขยับได้ไง....
เอาไปเรยย...ครับ แปลตามลำดับของต้นฉบับเลยแล้วกัน ดูลิ้งค์ประกอบด้วยนะ http://www.honda.co.jp/tech/auto/engine/vtec/index.html Vol.1 VTEC แก้ปัญหาได้อย่างเสียอย่างของเครื่องยนต์ที่มีมานับร้อยปีโดยการพลิกแนวคิดพื้นฐาน 1. อันดับแรกมาทำความรู้จักว่า VTEC คืออะไร เครื่องยนต์ถือกำเนิดมานับร้อยปี ก่อนที่จะมี VTEC ขึ้นมานั้น เครื่องยนต์ถือว่า "ไม่มีประสิทธิภาพ" คำว่า "ไม่มีประสิทธิภาพ" คือ [พอกำหนดด้านโน้นได้แล้ว ด้านนี้กลับใช้ไม่ได้] (การใช้งานในชีวิตประจำวัน) (ความเป็นสปอร์ต) เครื่องยนต์ก่อนที่จะมี VTEC ขึ้นมานั้น พอกำหนดให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ความเป็นสปอร์ตกลับไม่มี อยู่ในสภาวะที่ได้อย่างเสียอย่าง (การใช้งานในชีวิตประจำวัน) (ความเป็นสปอร์ต) แก้ปัญหาได้อย่างเสียอย่างของเครื่องยนต์ที่มีมานับร้อยปี! เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องยนต์ "มีประสิทธิภาพ" โดยการทำให้ (การใช้งานในชีวิตประจำวัน) กับ (ความเป็นสปอร์ต) ไปด้วยกันได้ นั่นก็คือ VTEC 2. แนวคิดใหม่ของ VTEC เครื่องยนต์ที่ "มีประสิทธิภาพ" เครื่องยนต์สร้างกำลังออกมาโดยการ (ดูด) (อัด) (ระเบิด) (คาย) ซ้ำไปซ้ำมา เครื่องยนต์ก่อนที่จะมี VTEC นั้น การเปิด Valve ในจังหวะ (ดูด) (คาย) จะตายตัว เพราะฉะนั้น รอบต่ำที่ถูกใช้งานเสมอในชีวิตประจำวันจึง (ดูดอากาศ) ได้พอดี แต่พอให้ Valve (เปิดน้อย) ตอนวิ่งแบบสปอร์ตที่รอบสูงที่ต้องการให้ (ดูดอากาศ) ได้พอดี โดยการให้ Valve (เปิดมาก) กลับไม่สามารถทำได้ จึงกลายเป็นเครื่องยนต์ที่ "ไม่มีประสิทธิภาพ" นั่นเอง ดังนั้น จึงมีการพลิกแนวคิดพื้นฐานเรื่องการเปิด Valve ที่ต้องตายตัวเสมอ โดยการสลับการเปิด Valve ที่รอบต่ำให้ (เปิดน้อย) ที่รอบสูง (ให้เปิดมาก) เพื่อให้ (ดูดอากาศ) ได้พอดีทั้ง 2 ด้าน นั่นคือแนวคิดใหม่ของ VTEC *รูปด้านขวาคือ Image การทำงานของเครื่อง VTEC ซีกซ้ายคือ Engine Power Image เปรียบเทียบแบบไม่มี VTEC กับ มี VTEC ซีกขวาคือจังหวะเครื่องยนต์ดูด อัด ระเบิด คาย การเปิดของ Valve ไอดี ไอเสีย ที่รอบต่ำ รอบสูง เปรียบเทียบแบบไม่มี VTEC กับ มี VTEC 3. กลไกของ VTEC ในการสลับการเปิด Valve ให้ (เปิดนัอย) (เปิดมาก) โครงสร้างง่ายๆ คือการเปลี่ยน Cam กับ Locker Arm ที่คอยกด Valve จากรุ่นเก่าที่มีเพียง 1 ชนิด ให้เป็น 2 ชนิด เพื่อให้สามารถสลับการเปิด Valve ให้ (เปิดมาก) กับ (เปิดน้อย) ได้ *รูปเล็ก จะเห็น Pin และ Locker Arm ที่ตรงกลางจะแยกส่วนจากกัน การสลับทำโดยใช้แรงดันน้ำมันบังคับ Pin ที่อยู่ข้างใน Locker Arm ซึ่งตรงกลางจะแยกส่วนจากกัน ที่รอบต่ำ Pin จะไม่ทำงาน Locker Arm ตัวกลางจึงกดฟรี Valve จะถูกกดโดยโหนกเล็กของ Cam ทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ Valve (เปิดน้อย) ที่รอบสูง ใช้แรงดันน้ำมันขยับ Pin ให้ Locker Arm เป็นชิ้นเดียวกัน ดังนั้น Valve จะถูกกดโดยโหนกใหญ่ ของ Cam ตัวกลาง ทำให้ Valve (เปิดมาก) *รูปด้านซ้าย ซ้ายบนคือโครงสร้างแบบเก่า มี Locker Arm ชนิดเดียว ขวาบนคือโครงสร้างของ VTEC มี Cam 2 ชนิด Locker Arm 2 ชนิด ซ้ายล่าง ขวาล่างคือหน้าตัดด้านข้าง ด้านหน้า แสดงให้เห็นการทำงานของเครื่องยนต์ ที่รอบต่ำ (Valve เปิดน้อย) รอบสูง (Valve เปิดมาก) ว่าจะมี Pin ที่คอยล็อค Locker Arm ให้กดฟรีที่รอบต่ำ และกดจริงที่รอบสูง การลสับชนิดของ Cam ที่คอยกด Valve ด้วยแรงดันน้ำมัน นั่นคือกลไกของ VTEC VTEC คือแนวคิดใหม่ในการพลิกแนวคิดพื้นฐานที่มีมานับร้อยปีตั้งแต่เครื่องยนต์กำเนิดขึ้น เพื่อทำให้ (การใช้งานในชีวิตประจำวัน) กับ (ความเป็นสปอร์ต) ไปด้วยกันได้ เป็นเทคโนโลยีในการผลิตเครื่องยนต์ที่ "มีประสิทธิภาพ" เป็นครั้งแรกในโลก *รูปเล็ก 1, Integra XSi / RSi ปี 1989 ที่ใช้เครื่องยนต์ VTEC เป็นครั้งแรก เป็นครั้งแรกของเครื่องยนต์ NA แบบ Mass Production ที่ทำให้ Output 100 แรงม้า ต่อความจุ 1 ลิตรกับการใช้งานในชีวิตประจำวันไปด้วยกันได้ (1.6 ลิตร DOHC VTEC Max Output 160 PS / 7600 rpm [Net Value] ) *รูปเล็ก 2, Legend ปี 2004 ที่ลงเครื่อง VTEC 3.5 ลิตรที่มีความจุมากที่สุดของ Honda Output 300 แรงม้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ไปด้วยกันได้
อ้าว...........ทำไมคับ ไม่รู้แล้วผิดเหรอคับ ใจกว่างหน่อยสิคุน.......... ผมสังเกตุหลายครั้งแล้ว คุนเข้ามาทีไร ดูเหมือนมีปัญหาทุกที...... ไม่ชอบพวกเราเชิญไปบอร์ดอื่นได้นะคับ....... ปัญหาของผมที่ถามในบอร์ดดูเหมือนเป็นปัญหาโง่ๆที่น่าจะรู้อยู่แล้ว อาจสงสัยว่าทำไมพวกมึงใช้วีเทคเสือกไม่รู้กันวะ ...... คับ ถ้าหากมีคนใจแคบแบบคุนมากๆ ความรู้มันคงเกิดยากคับ ...... ในบอร์นี้เจตนาผมเป็นเจตนาดี คนมือใหม่พึ่งเคยใช้ ฮอนด้า มันก็มี แล้วจะให้มันเป็นสาระอยู่ในบอร์มั่งไม่ได้เหรอไง ผมเชื่อว่า หลายคนเข้ามาดูบอร์ดของเรามากมาย บ้างเพื่อต้องการรถไว้ใช้มั่ง บ้างหาของ และ อาจต้องการความรู้ทางอ้อมบางอย่าง ดังนั้นกระทู้โง่ๆ ผมจึงเขียนไว้ให้คนมือใหม่ หรือคนที่รู้อยู่บ้างแต่ไม่เข้าใจในรายละเอียดได้ศึกษา ได้หาความรู้คับ หรือคุณมีอะไรจะเพิ่มเติมในคำถามโง่ๆนี้มั้ยคับว่า มันอทิบายตงไหนไม่ครบควรจะเป็นอย่างไร แบบนี้จะดีกว่าเขียนเพื่อให้พวกเรารู้สึกว่า แม่งไม่รู้เรื่องกันเหรอเนี่ย .......... นะคับ...........หัดใจกว้างมังสิคับ........
ผมเป็นคนนึงที่เข้ามาหารถ หาของ หาสาระความรู้ ในบอร์ดนี้อยู่บ่อย ๆ เห็นด้วยกับประธานบอร์ดและท่านอื่น ๆ ที่จะถ่ายทอด know-how, knowledge, etc. ทั้งแบบ simple และ advance แก่มือใหม่/มือเก่า/มือโปร (ซึ่งมีอยู่มากมายในวงคนเล่นรถ) และผมก็ได้เก็บเกี่ยวมันไปมากบ้างน้อยบ้างตามสมควร คนไหนที่รู้แล้ว..แค่ยิ้ม ๆ แล้วก็ผ่านไป ก็แค่นั้น ส่วนผมมือใหม่ก็เก็บเข้าคลังสมองไป ผมได้อะไหล่ ของแต่ง และความรู้ จากพี่อาร์ท (AUTO ART) ผมได้ความรู้ คำแนะนำดี ๆ และนำรถเข้า OVERHAUL ที่พี่ลิ้ม (TUNED BY LIM) และผมก็ได้ความรู้จากคุณ Broom ในหลาย ๆ ที่ (ส่วนใหญ่ในบอร์ด EG 3 door , 4 door) ครับ รังสรรค์ สร้างสรรค์ ผลงานกันต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อชนรุ่นหลัง(มือใหม่)
อันนี้เป็น Animation ของระบบ VTEC http://www.youtube.com/watch?v=AcT_ZyY3F0k&mode=related&search= และอันนี้เป็นการแผลงฤทธิ์ของระบบ VTEC บนถนนจริง http://www.youtube.com/watch?v=hzW8ECb5xWk&mode=related&search=
โห....วีเทคแรงน่ากลัวจริงๆ รอบฟาดเร็วมากเลย ตอนนี้ใช้เครื่องยนต์ 4A-GE ของTOYOTA อยู่ครับ ดูแล้วเทียบกับวีเทคไม่ได้เลย