..ง่ะ.. ทำไมผมถึงคิดว่า.. ..ขนาดล้อ.. ถ้ายิ่งใหญ่ - ก็ยิ่งสวย และยิ่งดี อยู่คนเดียวหว่า.. ..ลองคิดดูเล่น ๆ.. ถ้าล้อ 2 ชุดมีน้ำหนักเท่ากัน.. ..ชุดที่ได้วงล้อใหญ่กว่า.. และแก้มยางเตี้ยลง.. โดยมีเส้นรอบวงของยางเท่ากับอีกชุดนึงละก็.. ..การยึดเกาะบนพื้นถนน.. เวลาเกิดแรง G น่าจะดีกว่าอีกชุดนึงอย่างแน่นอน.. ..ลมยางที่แข็งขึ้น ( + 40 PSi ) สามารถแก้ได้ด้วยการลดแรงต้านของ DamPER.. ..แต่ขนาดของยาง เป็นแฟ็คเตอร์ของเปอร์ฟอร์มานซ์ครับ.. ใส่ซี้ซั้วไม่ได้.. ..ถ้าใช้ขนาดต่ำกว่าที่ควร.. รถมันจะไม่เกาะถนน.. ..หรือถ้าหน้ากว้างไป.. รถมันก็จะซดน้ำมันแหลก.. และอาจมีอาการ ไฮโดรเพลน เวลาวิ่งบนผิวน้ำเป็นของแถม.. ..ผมว่านะ.. ถ้าจะใช้ยางเกรดโรงงาน.. แบบหาซื้อที่ไหนก็มีขายกันละก็.. ..เครื่องเดิม ๆ ไปจนถึง 150 ม้า ขนาดหน้ายางแค่ 195 ก็เหลือแหล่.. ..ไม่เกิน 200 ม้า.. หน้ายางควรจะอยู่แถว ๆ 205.. ..เครื่องแรงเกินนั้นก็คงจะต้องใช้ 215 AND uP ล่ะครับ.. ..ไม่งั้นเดี๋ยวมีตัวใคร - ตัวมัน..
เห็นด้วย...กับข้อความข้างบนครับ...อิอิอิ ถ้าไม่เชื่อ...ลองใช้ 195/50/15 เป็นยางคู่หน้านะครับ 185/55/15 เป็นยางคู่หลังอะครับ.... แล้วเอาไปวิ่งจิม คาร์น่า ดู...จะรู้ผลเวลาเข้าโค้งหนักๆ ปล. หลังสาดแบบเกินห้ามใจครับ....อิอิอิ
ถ้าไม่ติด part รอบคัน 15 ก็ดีครับ แต่ 16 ก็เต็มซุ้มหน่อย ส่วนตัวผม เริ่มจาก ขอบ 14 ตอนเดิม มาเพิ่มเป็น 16 พร้อมติดลิ้นหน้า และแก๊ปหลัง สุดท้ายจบที่ 17 พร้อม part รอบคัน(ตามรูปส่วนตัว) วิ่งทางไกล ก็ซดประมาณ 13-14 โล/ลิตร ยังพอรับได้กับเครื่องคาร์บู อายุ ร่วม 10 ปี + อ้างถึง ตอบกลับ