ใครมีแนวคิด ช่วยแนะนำหน่อยคับ ผมเลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่อนุบาล2 เลี้ยงคนเดียวทำในส่วนที่แม่ต้องทำแทนทุกอย่าง ภรรยาไม่เคยมาส่งเสียลูกเลย ต้องนี้มีหมายศาลมาแล้ว เครียดคับ
มีเอกสาร เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกรึเปล่าครับ เช่นพวกใบเสร็จจ่ายค่าเทอม หรือ ค่ารักษาพยายาล อะไรทำนองนี้ ที่แสดงให้เห็นได้ว่าเราเป็นคนดูแล ผมตอบแบบมั่วๆ นะครับ ย้ำว่า "มั่ว" ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมายเลยครับ แต่ผมว่าพวกนี้ศาลคงดูหลักฐานอะ เอาใจช่วยครับ
เดี๋ยวโทรไปหาครับ ถึงไม่ใช่คดีถนัด แต่ขอดูรายละเอียดก่อน ถึงสิทธิความเป็นมารดาจะดูได้เปรียบ แต่ก็ยังพอมีทางอยู่บ้างล่ะครับ
แปลกดี ไม่เคยเห็นกระทู้ใน rcweb เลย คงต้องถามว่า 1.จดทะเบียนแต่งงานกันแล้วใช่มั้ย? - ถ้าจดทะเบียนเรียบร้อยต่อข้อสอง (ถ้ายังไม่ได้จด..เราก็ไม่มีสิทธิในตัวลูกตามกฏหมาย...แพ้แน่ๆ) 2.เหตุที่ต้องฟ้องเนื่องจากการอย่าร้าง? - เพราะเหตุจากการอย่าร้างอาจทำให้เราเสียเปรียบ คร่าวๆก่อนละกัน......ถ้าจะให้ดีลองไป post ใน --> http://www.meechaithailand.com ดูน่าจะได้คำตอบดีๆ "เมื่อไปถึงศาล ต้องไปสู้คดี อย่าปล่อยปละละเลย เพราะการที่ศาลจะให้ใครเลี้ยงดู ศาลจะคำนึงถึงความผาสุกของเด็กและความผูกพันระหว่าง "แม่/พ่อ" และลูกเป็นสำคัญ" goodluck krab
ผมเองกับทราบดีถึงความเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ เหตุผลของการหย่าก็เพราะผมไม่ต้องการที่จะเซ็นต์ค้ำประกันในการกู้เงินเเบ้งค์กรุงไทยจำนวน 2 ล้านบาท เพราะก่อนหน้านี้ผมทำงานเป็นวิศวกรอยู่ที่มาบตาพุด แต่งงานจดทะเบียน แต่เนื่องจากแม่ยายต้องการเงินไปใช้หนี้นอกระบบและกับญาติของเค้า จึงทำเรื่องกู้โดนมีคนในแบ้งช่วยเดินเรื่องให้สำเร็จ 500000 บาท ผมก็เช็นต์ค้ำประกันให้ ต่อมาเงินก้อหมดไม่ทราบจริงๆว่านำไปใช้อะไรบ้าง ครั้งที่2 ของกู้เพิ่มโดนเสนอโครงการว่าจะนำเงินไปลงทุนซื้อเครื่องผลิตลูกชิ้น คนในแบ้งค์ก็จัดการให้เสียเงินให้เจ้าหน้าที่ไป ถึงเวลาก็บอกให้ผมมาเที่ยวบ้านมาหาลูกบ้าง ผมก้อไปเสร็จแล้วก้อให้ผมไปเซ็นต์ค้ำอีก ผมก้อบอกว่าครั้งที่แล้วเงินไปไหนหมดครั้งนี้ กู้อีก1000000(หนึ่งล้าน) แม่ยายบอกจะไปซื้อเครื่องทำลูกชิ้น ก้อเซ็นต์ให้ไปเพราะที่ๆจำนองแบ้งค์เป็นชื่อภรรยา เราเป็นสามีตามกฎหมายเป็นคนๆเดียวกันก้อต้องเซ็นต์ ซึ่งแม่ยายก้อบอกว่าช่วยแม่หน่อยรับรองแม่จะไม่ทำให้ลูกเดือดร้อน เลยบอกไปว่าจากเซ้นต์ให้ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะ เพราะผมเห็นว่ามากกว่าผมคงตายแน่หากมีปัญหามา แต่สุดท้ายก้อไม่พอครั้งที่3 กู้ 2ล้าน ไม่ไหวครับคุยกับภรรยาก้อไม่มีประโยชน์อะไรเด้ารักแม่มาก จนผมกลับมาทำงานที่นนท์ ปล่อยให้เค้าจัดการกันเองไม่ยุ่ง จนถรรยาลงมาหาแล้วบอกให้แยกทะเบียนกันผมจะได้ไม่มีปัญหา เราตกลงกันว่าแยกกันทางนิตินัยนะ แต่พฤตินัยเราทั้งคู่ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ไม่อยากให้ลูกรู้ว่ามีปัญหากลัวลูกจะเป็นปมด้อย เมื่อตกลงกันได้เอกสารแนบท้ายใบหย่า ได้บันทึกว่าปกครองบุตรร่วมกัน หลังจากนั้ ผมก้อเอาลูกมาเรียนที่นนท์ ซึ่งแฟนก้อทราบและทำเอกสารขอย้ายจากเซนต์โย สกลนคร มาที่ สันติวัน นนท์ แฟนก้อมาดูที่โรงเรียน ก้อยังไม่มาหาสู่กันอยู่ สกล-นนท์ ในหมายศาลบอกว่าผมสอนลูกให้ชิงชังแม่ ไม่ให้เจอ มีนิสัยดุร้าย กลัวว่าลูกโตขึ้นจะมีนิสัยดุร้าย จึงขอให้ศาลพิพาทษาให้แม่เป็นผู้ปกครองเลี้ยงดูบุตรคนเดียว ผมครียดมากเลยครับ ตลอดเวลาที่ลูกมาเรียนที่นนท์ ผมเป็นคนส่งเสียทุกอย่างหมด ไม่เคยขอกับเค้าสักบาทเดียว เพราะผมเค้าใจว่าเค้ายังมีภาระหนี้สินอยู่กับทางแบ้ง ผมเองก้อไม่คิดอะไร เราก้อทำตามหน้าที่เราไป เค้าคงคิดว่าเราทำงานมีเงินก้อคิดจะเอาลูกไปเผื่อขอค่าเลี้ยงดูหรืองัยไม่ทราบ ผมเสียใจมากจิงๆ ก้อคงต้องสู้กัน 24-25 กค 51 ขึ้นศาลคดีเยาวชนและครอบครัว สกลนคร ขอบคุณทุกกำลังใจครับ
ตัวแปลคือภาระหนี้สิ้นที่ภรรยาของคุณมีอยู่เพราะถ้าสู้กันคุณเสียเปรียบเกือบร้อยเปอร์เซ็น แต่ก้อมีทางเป็นไปได้ถ้าคุณหาข้อมูลหลักฐานที่จะบ่งชี้ว่าภรรยาคุณไม่เหมาะสมจะเลี้ยง ดูเช่นเรื่องหนี้สิน,เรื่องสภาพแวดล้อมทางบ้านภรรยาคุณ(นัยว่าถ้าลูกคุณไปอยู่กับเค้าจะ ทำให้ลูกคุณเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง)ผมว่าถ้ายิ่งทางโน้นมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องผม ว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีของคุณนะยังไงลองปรึกษาทนายดูอีกทีจะดีกว่าผมก้อแค่เคย มีประสบการณ์อ่ะครับไม่รู้ข้อกฎหมายลึกซึ้งนัก
คงต้องหาพยานให้ได้มากที่สุดละครับ เป็นต้นว่าครูที่โรงเรียน เพื่อนบ้าน เพื่อน หรือญาติ แล้วถ้าเราฐานะเราดีกว่าเค้า เราก็เป็นต่อครับ เพราะศาลจะให้ผู้ที่เลี้ยงเด็กแล้วมีความสุขมากกว่า มีอนาคตดีกว่า และเราก็ไม่ได้กีดให้เค้ามาเยี่ยมเลี้ยงดูด้วย โอกาสเราก็มีครับ แต่ศาลครอบครัว จะใช้วิธีการประนีประนอมครับ ดูแล้วไม่น่าห่วงนะครับ ที่สำคัญถ้าเราไปมีคนอื่นเป็นตัวตน อันนี้มันก็จะลดความน่าเชื่อถือลงไปครับ
ผมเสียใจด้วยนะครับ กับการที่เราจะเป็นคนดีแล้วโดนทำร้ายแบบนี้ แต่ผมไม่เสียใจกับการฟ้องหย่าของแฟนพี่...เพราะว่า...พี่เป็นคนดี ยังไงก็ต้องมีสิทธิเลี้ยงดูลูกครับ...ผมเชื่อแบบนั้นนะ
ผมว่าเอาเรื่องหนี้สินเค้ามาอ้าง น่าจะเวิร์คดี และพวกหลักฐานการเลี้ยงดูอย่างที่พี่ๆเค้าบอก ผมว่ากรณีที่ว่าสอนสูกให้ชิงชังแม่ผมว่า มันต้องมีอะไรที่เด่นชัดทางพฤติกรรมของเด็ก ใกล้ตัวผมมีแต่กรณีแม่ฟ้องเอาลูกมาได้ แต่กรณีพี่นี้เดี๋ยวลองถามผู้มีปรสบการณืให้แล้วจะมารายงาน ผมไม่ได้เรียนกฏหมาย แต่มีเพื่อนเรีนหลายคนจะลองถามให้ครับ สู้ๆ
ในวันแม่ของทุกปีที่โรงเรียนจัด แม่เค้าไม่เคยมาโรงเรียนลูกเลยทั้งที่รู้ว่าลูกเรียนที่ไหนผมก้อไม่ได้ปิดบังอะไรแค่โทรมาว่าจะมาก้อไปรับแค่นั้น บางปีลูกก้อถามพ่อว่าปีนี้หนูจะทำไอ้นั้นไอ้นี่ให้แม่ แม่จะมามั๊ยพ่อ มันกดดันมาก แล้วสิ่งที่ฟ้องผมว่าสอนให้ลูกเกลียดแม่นั้นรับไม่ได้จิงๆ
ขอบคุณมากครับ เพื่อนๆทุกคน ผมเองคงต้องขยันขายของเพิ่มเป็นเท่าตัว เพราะงานนี้คงต้องใช้เงินมากพอดู ยังไงก้อขอขอบคุณอีกครั้งที่ทุกคนเป็นกำลังใจให้
เอาใจช่วยคับพี่น้อง ใจเย็นๆค่อยๆคิดแล้วเรื่องร้ายๆก็ผ่านไปเองแหละคับพี่น้องคับ ฟ้าหลังฝนย่อมสว่างสดใส เป็นกำลังใจให้นะคับพี่น้องคร๊าบบบบบบบ :first::first::first::first::first::first::first::first:
ถามมาให้แล้นะครับ เค้าบอกว่า....มันต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ พวก สาเหตุที่แยกกัน เรื่องการเลี้ยงดูของเรา การเลี้ยงดูของเค้า วันไหนเราทำอะไรแล้วเค้าไม่ได้มาร่วมกิจกรรมครอบคัวบ้าง รายละเอียดเยอะมากครับ หาทนายดีกที่สุด แต่เอาแน่เหรอครับ ไม่หาทางตกลงกันก่อนเหรอครับ + อ้างถึง ตอบกลับ
