จริงหรือเปล่า…พื้นถนนสีแดงกันลื่นได้

สวัสดีท่านผู้รักรถยนต์ทุกท่าน วันนี้ทาง โตโยต้า กรุงไทย ก็มี เกร็ดความรู้รถยนต์ ดีๆมีสาระมาให้ความรู้กันครับ ซึ่งในเกร็ดความรู้รถยนต์ในวันนี้ก็จะเกี่ยวกับการใช้ถนนครับ ท่านผู้รักรถยนต์เคยสงสัยกันไหมว่า พื้นถนนสีแดง สามารถลดอุบัติเหตุในช่วงฝนตกในลักษณะที่ว่ากันลื่นให้กับ ยางรถยนต์ ได้ โดยวันนี้ทาง โตโยต้ากรุงไทย ก็จะมาให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับ ในหลายๆครั้งที่ผู้ขับขี่ รถยนต์ หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นการทาสีแดงลงบนผิวถนนตามทางโค้งต่างๆและเกิดคำถามว่า สีที่ทาบนถนนนั้นสามารถช่วยกันลื่นได้จริงหรือและทำไมต้องทาพื้นถนนให้เป็นสีแดงด้วย…..​

นั่นก็เป็นเพราะสีแดงที่ท่านผู้รักรถยนต์เห็นกันบนพื้นถนนตามทางโค้งต่างๆนั้น ตามหลักภาษาอังกฤษแล้วเขาเรียก “Anti Skid” คือ สีจราจรประเภทหนึ่ง ที่มีความฝืดมากขึ้น โดยปกติความฝืดของถนนจะอยู่ที่ระดับ 45 – 50% แต่เมื่อเราใช้ Anti Skid ความฝืดของถนนจะเพิ่มขึ้นเป็น 60 – 70% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งการใช้สีแดงในส่วนที่เพิ่มความฝืด เพื่อให้สะดุดตา เพราะสีแดงนี้จะสื่อถึงผู้ขับขี่ให้เห็นว่า พื้นที่บริเวณที่ทาสีเอาไว้ควรขับขี่อย่างระมัดระวัง หรือมีความอันตรายมากกว่าปกติ และถ้าเป็นโค้งธรรมดาไม่ใช่จุดเสี่ยง ก็อาจใช้วิธีเพิ่มความฝืดถนนเพียงอย่างเดียว ด้วยการฉาบผิวทางที่เรียกว่า “Para slurry seal” โดยที่ไม่ต้องมีสี แต่ในโค้งที่เป็นจุดเสี่ยง สีจะมีประโยชน์มาก แต่หลายคนหลายความคิดก็เกิดคำถามอีกว่า สีแดงบนพื้นยิ่งทำให้ลื่นกว่าเดิมหรือเปล่า ความจริงก็คือ สีที่ใช้ทานับเป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งโดยหลักการเมื่อทาสีแล้วจะต้องโรยลูกแก้วทับ เพื่อเพิ่มความฝืด ในทางเทคนิคแล้วถ้าอุณหภูมิไม่เหมาะในระหว่างทำ เช่น สูงไป สีจะเหลว ลูกแก้วจะจม นั่นคือสาเหตุของความลื่น หรือถ้าสีแข็งไป ลูกแก้วก็จะลอยอยู่ข้างบน เมื่อใช้ไปได้ไม่นาน เม็ดก็จะหายไป เพราะฉะนั้นต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้ได้องศาตามที่กำหนดคือ 200 องศาฯ บวกลบ ไม่ควรเกิน 10 องศาฯ การทาสีแดงบนพื้นเพื่อกันรถลื่นตามโค้งอันตรายต่างๆ ช่วยเพิ่มความฝืดและป้องกันอุบัติเหตุได้มากกว่าพื้นผิวถนนปกติได้มากถึง 20% ซึ่งวิธีการนี้เป็นเพียงวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ แต่ผู้ขับขี่ก็ควรขับรถในความเร็วที่เหมาะสมและไม่ประมาทด้วยนะครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับคำตอบของเกร็ดความรู้รถยนต์ที่ว่า พื้นถนนสีแดง สามารถลดความลื่นของถนนได้อย่างไร สำหรับครั้งหน้าจะมีเกร็ดความรู้รถยนต์เรื่องอะไรนั้นต้องคอยติดตามกับทางเราได้อีกน่ะครับ