พอดีจะซื้อรถมือสองครับ..ก็เลยจะศึกษาเกี่ยวกับ บี13ไว้ก่อน 1. ว่ามันขี่ดีไหม 2. ช่วงล่างเป็นแบบคานแข็งหรืออิสระครับ.. 3. .และเครื่อง 16 กินน้ำมันป้าว แต่คันนี้มีแก๊ส .......ก็เลยอยากถามข้อมูลและคำแนะนำครับ.....ชี้แจงด้วยครับ ไม่รู้จริงๆ 4. พวกอะไหล่หาง่ายไหมครับ ************ขอบคุณพี่มากๆเลยครับ************
นนท์....นิสัน......เซ็นทรา.....13 ดีคับ...... ขับดี รถสวย ขับนิ่ม ประหยัดน้ำมัน ดีทุกอย่างคาบบบบบบบ :sad::sad::sad::sad::sad:
บี13 100.000 บาท แพงไหมครับ ....มีแก๊สด้วย max 15นิ้ว lenso รถสีเทา ปีอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่ว่าเนียนมาก.....เครื่อง 1600
และเทียบกับสองคันนี้ละครับ คันที่1. ms132 มีแก๊สเหมือนกัน 135000 คันที่2 b13 ทั้ง 2 คันเป็น รถในrc ทั้งคู่ครับ..... แต่ว่าเอาไปใช้จริงครับจึงอยากปรึกษา....เพราะว่ากล้วซื้อผิดอะครับ กล้วเสียดายเงินแสนหนึ่งหายากมาก
เมื่อกี๋นี้ไป บอร์ดคนขาย บี 13 ครับ เค้าเพิ่งโพส บอกว่าขายไปเมื่อวานนี้....ผมก็เหลือคันเดียวแล้ว.....ตัวเลือกสุดท้าย...พี่ว่าแพงไหมหรือจะรอคันอื่นดี....มีงบ ประมาณ 100000.....จริงๆครับ
1. ว่ามันขี่ดีไหม ระบบควบคุมทั้งหลายถือว่าใช้ได้ดีเลยครับ พวงมาลัยแม่นยำพอสมควร อาจจะรู้สึกว่าไวไปนิดบ้างแต่ยังถือว่ามั่นคงกว่ารถในยุคเดียวกัน ภายในเก็บเสียงดีมากๆ หากเทียบกับรถยี่ห้ออื่นๆ 2. ช่วงล่างเป็นแบบคานแข็งหรืออิสระครับ.. ช่วงล่างเป็นแบบอิสระหน้าหลัง ซึ่งไม่ได้หาง่ายๆ ในราคานี้ และในรถสมัยนี้อีกด้วย ความมั่นใจเวลาเข้าโค้งในห้วงความเร็วปานกลางจึงให้ความมั่นใจสูงกว่าคำว่า "จ่ายกับข้าว" 3. .และเครื่อง 16 กินน้ำมันป้าว แต่คันนี้มีแก๊ส .......ก็เลยอยากถามข้อมูลและคำแนะนำครับ.....ชี้แจงด้วยครับ ไม่รู้จริงๆ เป็นเครื่องยนต์ที่ไม่กินน้ำมันหนักหน่วง แต่อาจกินมากกว่าเครื่องพันหกยี่ห้ออื่นๆ แต่เป็นเครื่องยนต์ที่ไม่จุกจิกและไว้ใจได้ ประเภทเดินทางไกลไม่ต้องห่วงเรื่อง กินข้าวลิง แต่ถ้าจับมาสืดแก้ส จะพบว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ช่างติดแก้สบ้านเราชอบมากที่สุด เพราะว่ามีปัญหาน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ มากมาย 4. พวกอะไหล่หาง่ายไหมครับ อะไหล่หาง่าย ไปหาอย่างไรก็เจอ ราคาถูกกว่ายี่ห้ออื่นจนน่าแปลกใจ ของแต่งของเล่นมีมากมายแสนสนุก ได้มาแล้วอาจต้องเปลี่ยนพวกท่อยางต่างๆ ที่ค่อนข้างอายุสั้นกว่าชาวบ้านเขาบ้าง แต่ด้วยความที่ไม่แพง เลยไม่ใช่เรื่องที่หนักใจ
มาเสริมให้ละกันครับ เพราะผมก็เพิ่งได้รถ B13 นี่มา 2-3 เดือน รถยนต์รุ่นนี้ต้องดูด้วยว่า แปลงเป็นป้ายดำ หรือเปล่า (เป็นรถแท็กซี่ อาบน้ำมาใหม่) เพราะรุ่นนี้ สมัยรุ่งเรือง แท็กซี่ นิยมพอสมควรเลยทีเดียว ข้อดีของรถรุ่นนี้คือ ระบบไฟฟ้า ให้มาเกือบครบทุกจุดเลยครับ เมื่อเทียบกับรถยุคเดียวกันอย่าง 3 ห่วง หรือซีวิค 3 ประตู เรื่องราคา ก็ถูกกว่า รถยุคเดียวกัน อย่าง 3 ห่วง หรือ 3 ดอร์ เช่นกัน รุ่นนี้มือสอง ต่ำกว่าแสน (แล้วแต่สภาพ) แต่ 3 ห่วง แสน2-4 ได้เห็น แล้วแต่รุ่น เครื่อง และสภาพ สำหรับ 3 ดอร์ ราคา แสนปลายๆ เลยทีเดียว ทั้งๆ ที่บางคันสภาพโคดเน่าเลย ข้อเสีย คือ บอกตรงๆ ว่า รุ่นนี้หาสภาพดีค่อนข้างยาก โดยเฉพาะยางต่างๆ เสื่อมตามสภาพ และก็อะไหล่ มือหนึ่ง เบิกศูนย์ รับรองว่าฟังและสะดุ้งแน่นอน แต่ยังโชคดีมาก ที่ไปเชียงกง รับประกัน ว่า อะไหล่ มีเกือบทุกร้าน หากร้านไหนไม่มีนี่ แสดงว่า ร้านนี้เล็กมากๆ เลย แต่ที่เชียงกง บางพลี ก็ออกตัวกันแล้วว่า ต่อไปจะเริ่มไม่มีแล้ว เพราะที่ญี่ปุ่น ก็ไม่ค่อยมีรถรุ่นนี้ในตลาดของเขาแล้วเช่นกัน ซึ่งก็คือ ที่ญี่ปุ่นไม่เหลือรถรุ่นนี้ให้โละอีกแล้ว แต่ถ้าเอาจากประสบการณ์ของผมเลย .......... บอกตรงๆ ว่า ซื้อมาแล้วผิดหวังกับสภาพรถจริงๆครับ (อาจเป็นเฉพาะเคสของผมก็ได้นะครับ ต้องดูเป็นเคสๆ ไป) ผมถอยรถมา 2 เดือน ซ่อมไปดังนี้ 1. เครื่องยนต์ (ตอนซื้อผมดูเครื่องไม่เป็น เห็นว่า วิ่งสบายๆ แต่สุดท้าย กลับยังไม่ถึงบ้านเลย) โดยซ่อมวาล์วไป หมดไป 5 พัน 2. แก้เรื่องกินแก๊ส (หมดไป 2 พัน) 3. เกะ ที่เก็บของด้านคนนั่ง มันแตก เลยไปซื้อเซียงกงมา 5 ร้อยบาท ซื้อมา ช่างดันทำที่เปิดแตกอีก ตอนนี้เลย ที่เปิดแตกมันทั้งอันเก่า และอันที่ซื้อจากเซียงกงเลย สรุปเน่าเหมือนเดิม ลืมบอกไปว่า เกะญี่ปุ่นไม่มีที่ล๊อกนะครับ 4. คอนโซลกลาง ตรงเกียร์ ........ เกะที่วางแขน เจ๊งอีก (เพราะมันเก่า) แถมตรงเกียร์ก็หักอีก ....... สรุป หมดไปอีก 700 บาทเซียงกงเช่นเดิม 5. ไม่นานถัดมา ปุ่มแอร์เจ๊ง .......... ไปซื้อเซียงกงมา 500 บาท ให้ช่างซ่อมอีก หมดไป 700 บาท 6. ตู้แอร์ + พัดลมเจ๊ง (ความจริง พัดลมเจ๊งอย่างเดียว แต่ช่างแอร์บอกว่า ตู้ก็กำลังจะเน่าแล้ว ให้เปลี่ยนครั้งเดียวกันไปเลยดีกว่า เลยวิ่งไปซื้อทั้งพัดลม และตู้แอร์ หมดไปอีก พันนิดๆ ) 7. ขับไปชลบุรี กลับมา คอมแอร์มีเสียง แต๊กๆๆๆๆๆ ........... เลยให้ช่างแอร์คนเดิมไปดู (ความจริงแกเตือนแล้วว่า คอมแอร์อยู่อีกไม่นาน) เลยวิ่งไปซื้อ คอมแอร์แบบโมเหมือนใหม่ กลับมาเปลี่ยนอีก ....... หมดไปอีก 1500 บาท รวมค่าแรงก็ประมาณ 2 พันนิดๆ 8. ขับรถไปต่างจังหวัดบ่อย เลยเอามือไปดึงที่บังแดดลงมา ............ แตกอีก ........ งานเข้า ไปซื้อ บังแดด ซ้ายขวา ที่เซียงกง 600 บาท (วันก่อน มีประกาศใน RC นี่แหละ ดันไม่ซื้อ 400 บาทเอง) 9. ล่าสุด ท่อพวงมาลัยเพาเวอร์แตก ....... มือหนึ่ง 3900 บาท หนีกลับไปเช๊ยงกงอีก 500 บาท + ค่าแรง 150 บาท ........ 10. พอเห็นน้ำมันรั่วลง โช๊คอัพ ก็นึกว่า น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ....... แต่ไม่ใช่แค่นั้น ...... โช๊คแตกอีก ... ซ่อม + ยกสูง หน้าหลังอีก 2500 บาท ......... ค่าซ่อมไม่เท่าไหร่ครับ ............. วิ่งวุ่นกับการซ่อมต่างหาก เรื่องใหญ่ ........ วุ่นจน หัวหน้าคิดว่า ผมเอารถมาอ้างนุ่นอ้างนี่ แม่ยังบอกว่า .......... นี่มันซ่อมมากกว่า ตอนพ่อถอยรถกะบะมือสอง มาวิ่งส่งของสมัยหนุ่มๆ อีก .... แม่บอกว่า สมัยก่อน ซ่อม สัปดาห์เว้นสัปดาห์ ของผมนี่ ซ่อมมันทุกสัปดาห์ ....... บอกได้เลยครับว่า ............ ผมซ่อมยังบ่อยกว่า ล้างรถคันนี้อีก ....... พูดจริงๆนะ เพราะปกติผมจะล้างรถ + มอไซค์ ทุกสัปดาห์ แต่หากสัปดาห์ไหนมีพาน้องเขาเข้าอู่ ผมจะไม่ล้างรถ เพราะรู้ว่า ซ่อมเสร็จค่อยล้างรถ เพราะมันจะมีคราบน้ำมันมา ......... ตอนนี้เลยได้ล้างรถไป 3 ครั้งเองครับ ในรอบ 3 เดือน ............ ดู ดู ดู๊ ดูเธอทำ ....... ทำไมถึงทำกับฉันได้ .... ปล. นี่ยังมีอีกหลายอย่างต้องซ่อมนะครับ แต่รอๆ อยู่ ส่วนชุดแต่ง มีน้อยครับ ผมไปเดินหาทั่วเชียงกง ... แค่ วอเทอร์การ์ด ยังหายากเลย
อ่าสำหรับผมคิดว่า เป็นธรรมดาอะครับ ผมเองใช้รถมาคันนี้เป็นคันที่ 5 แล้วครับ ก่อนหน้านี้ก็มี โดเรม่อน2 สตาเล็ท หน้าแหลม แล้วก็ b12 คันนี้ครับ แฟนใช้ โดเรม่อน งานซ่อมบางอัน ถ้าเราไปจุกจิกมาก มันจะลำบากคับ ถ้าไม่เป็นไรมาก เก็บไว้ทำรวดเดียวจะประหยัดเวลาครับ รถราคาประมาณนี้ ถ้าได้มาไม่แพง งบซ่อม ผมตั้งไว้เลยว่า 20000 ในเวลาซัก 1-2 ปีอคับ แต่ลำบากตรงเสียเวลานี่ละคับ ส่วนใหญ่ผมจะวุ่นตอน 2-3 เดือนแรกอะคับ พวกหลักๆ หลังจากนั้น ก็พวก แอร์ อาจจะซักช่วง5 เดือน ถึงจะเห็นอาการ พยายามทำรวดเดียวให้ดีเลย เพราะทำหลายรอบจะเปลืองคับ เรื่องแอร์มันจุกจิก พอดีผมมีร้านประจำ เลยสบายหน่อย แต่ร้านก็ทำช้าคับ บางทีก็รำคาญเหมือนกัน แต่ถ้าชอบรุ่นนี้ แบบนี้ ก็ทำเถอะครับ ให้เค้าอยู่กับเรานานๆๆ + อ้างถึง ตอบกลับ