จะใส่แบต amp สูงๆ ก็ต้องให้สัมพันธ์กับไดร์ชาร์ตด้วย ถ้าไดร์เดิมแค่ 45 amp ไปเปลี่ยนแบต เป็น 60 75 amp ไดร์ชาร์ตก็จะทำงานหนัก จะเกิดอาการไฟชาร์ตเข้าไม่พอ
ลองดูข้อมูลในนี้ดูครับ ไม่รู้จะเชื่อใครดี http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=32950.0
ถ้าในรถไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้ไฟมากๆเช่น พาวเวอร์แอม ให้ใช้แค่ 75ก็พอครับ ข้อดี เซฟไดชาจและ เบารถ ใส่ใหญ่ไปหนักรถเอียงป่าวๆครับ แต่ถ้ามีแอมขับดอกเยอะๆวัตสูงๆ ควรใช้ 100 แอมหรือมากกว่า แต่คุณควรจะเปลี่ยนไดชาจเป็นแอมที่สูงกว่า แต่ถ้าเล่นแบบวัตสูงๆประเภทบ้าพลัง คุณควรใช้ไดชาจแต่ง เส้นทองแดงจะใหญ่กว่า คัตเอ้าในตัวไดชาจมันจะตัดที่แอมสูง รถยนต์แต่ละคันวิศวะกรรมกรเค้าได้ออกแบบคำนวนไดชาจ ขนาดขดลวด คัตเอ้า และแบตมาลงตัวแล้วครับ จากประสบกามเห็นประจำครับประเภทไดชาจเดิม ใช้แอมหลายๆตัวขับดอกใหญ่หลายดอกใช้งานไประยะนึง ไดชาจละลาย หัวคอมไหม้ คอยหรือทองแดงเกรียมประจำครับ หวังว่าที่ผมโม้มาตั้งเยอะคงมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ อิอิ
ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยังเดิม ๆ ไม่มีการเพิ่มเติมเครื่องเสียงบ้าพลังแบบที่พี่ พจน์ พจน์ บอก จะใช้แบตใหญ่ขึ้นหรือเท่าเดิมก็ไม่มีปัญหากับไดชาร์จแต่อย่างใด ใช้แบตใหญ่ขึ้นจะมีผลดีขึ้นด้วยซ้ำคือมีไฟสำรองมากขึ้น แต่ถ้ามีการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการกินกระแสสูง ๆ แอมป์วัตต์สูง ๆ แต่เพิ่มแบตอย่างเดียวไม่ได้ต้องเพิ่มไดชาร์จด้วย เพราะเมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้ว รถจะใช้ไฟจากไดชาร์จเท่านั้น แบตมีหน้าที่เพียงสำรองไฟเท่านั้น อย่างที่พี่ ด.ช. ธีรสิทธิ์ สินเทศ เคยบอก "ไฟไม่พอ แบตไม่เกี่ยวมันขึ้นอยู่กับไดชาร์จต่างหาก"
แบตเตอรรี่ เป็น เหมือนตัวกักประจุ สามารถครายประจุได้เอง ในอากาศและสื่อตัวนำ ถ้าไม่มีประจุวิ่งผ่าน(recharge) ค่าแรงดันของประจุจะลดลง จนเหลือน้อย และไม่สามารถเอาไป ปั่นมอเตอรสตารทได้เพียงพอ ^_^ หลักง่ายๆครับ ตั้งน้ำไว้แก้วนึง น้ำในแก้วระเหยได้ จนหมดแก้ว ^_^ + อ้างถึง ตอบกลับ