โง่อยู่นาน เกือบไปแล้ว ที่ผมเคยบอกว่าผมได้ HOLSET HX40W US มาน่ะ ยอดใบหน้า ของมัน 60 มม. และฐานใบหน้า 85 มม. จ๊ากกกกกกก.....!!!! พระเจ้าจ๊อด เกือบเอาไปขายแล้วไหมล่ะ หึหึ
HX40W อยากบอกว่า พวกใบพัด 6 ใบ เป็นรุ่นเก่าสุด ใหม่มาหน่อยจะเป็น 8 ใบ แล้วตอนนี้ ใหม่ขึ้นมาอีก จะเป็น 7 แล้วครับ........
ในEBAY เทอร์โบพวกนี้ขายกันอยู่ ประมาณ 200-300 เหรียญครับ น่าสนไหม คิดเป็นเงินไทยรวมค่าส่งด้วยก็ประมาณ เกือบ 20000 ครับ.....
พี่ทำแบบอเมริกาซิ เค้านิยม เอาพวกซีวิคเซทเทอร์โบใหญ่ๆ แต่บูทส์ น้อยๆ ไม่เกิน10 เองแต่ไม่ทำไม วิ่งดีจังเลย
โอยไม่ไหวหรอกครับ น้ำมันขนาดนี้ โบลูกขนาดนี้ถึงจะบู๊สต์น้อย แต่มันก็ทำลมได้เยอะนะครับ 10 ปอนด์ กับใส้เบนซิน NA ไม่ต้องสืบครับ ใส้แตกแน่นอน อิอิ
อย่าลืมคิดภาษีด้วยนะครับ อัตราค่าภาษี ตามแต่ใจเจ้าหน้าที่ครับ เพื่อนผมเคยสั่งของแต่ง Volk เข้ามา 2รอบราคาภาษีไม่เท่ากันเลย ต่างกันพันกว่าบาท
ปาก2ชั้น เชื่อว่าหลายๆคน คงต้องเคยได้อ่านบทความนี้ " โข่งไอดีแบบ 2 ชั้น หลังจากผู้ผลิต turbo พบข้อเสียที่เกิดขึ้นในเรื่อง Surge และ Choke ของใบพัดไอดี ดังนั้น จึงมีการค้นคว้าและพัฒนา โข่งไอดีที่จะมาช่วยลด Surge Line แต่เพิ่ม Choke Line ออกไป ดังนั้นประมาณ 20 ปี ก่อนวิศวกรจาก Holset เป็นผู้คิดค้น โข่งไอดีแบบ 2 ชั้น ขึ้นเป็นรายแรก โดยเรียก โข่งไอดีนี้ว่า MWE หรือ Map Width Emhancement ซึ่งก็คือการขยาย แผนภูมิใบพัดไอดีออกให้กว้างขึ้น ซึ่งจากการทดลอง Air Flow พบว่า ก็คือ การขยาย Map ออกไปได้เพิ่มถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์ โดยจะสังเกตได้ จากตัวอย่าง Map ของใบพัดไอดี Holset รุ่นเดียวกันแต่แตกต่างกัน เฉพาะโข่งไอดี โดยโข่งไอดี ที่ใช้แบบ MWE จะช่วยให้ Map ขยายตัวออกมาทั้ง 2 ด้าน จากข้อได้เปรียบดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตอื่น ๆ ทั้ง Garrett , KKK, schwitzer , IHI , และ Mitsubishi เริ่มผลิต โข่งไอดีแบบ 2 ชั้น ตามโดย Garrett เรียก “ Ported Shroud ” , KKK เรียก “Recirculating Channel ”เป็นต้น หลักการทำงานของโข่งไอดี แบบ 2 ชั้นนี้ก็คือ ในช่วงที่อากาศเข้าไม่พอแทนที่แรงดันนี้จะย้อนกลับไป ปะทะกับแรงดันอากาศที่เข้ามาใหม่ แรงดันอากาศนี่จะไหลย้อนกลับ มาในร่องของ โข่งไอดี ทำให้ อากาศเต็มเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อมวลอากาศเข้ามาอยู่ในใบพัดไอดีจนเต็มแล้ว อากาศจะสามารถผ่านเข้ามาร่องนี้ได้อีกเช่นกัน และเข้าไปยัง ภายในร่องอากาศโข่งไอดี โดยตรง ซึ่งเป็นการเพิ่ม Air Flow โดยทันที อย่างไรก็ตาม โข่งไอดี บางแบบ จากสำนักแต่งญี่ปุ่นที่หล่อขึ้นมาเอง โดยทำการเซาะร่อง ที่ตัวเนื้อโข่ง แล้วอัดปลอก เพื่อให้ดูเป็น 2 ชั้นนั้น แท้ ๆ แต่ไม่มีคุณสมบัติเหมือนกัยการหล่อโข่งไอดีมาตั้งแต่ต้น เพราะในร่องจะเป็น ถังลมที่มีอากาศอยู่เต็มตลอดเวลา ดังนั้นหากท่านมีโอกาสเลือก turbo แล้วจงมองหา โข่งไอดีแบบหล่อ 2 ชั้น เป็นทางเลือกแรก " เลยทำให้มีข้อสงสัยว่า ปาก 2 ชั้นแบบๆที่เราทำนั้นไม่ถูกต้องตามหลักเหรอครับ ไม่ต้องมีร่องลมเหรอครับ ปาก 2 ชั้นแบบเดิมของ Holset ของ TF-06 ที่ไม่มีร่องลมให้ใบล่างกินลมถูกตามหลักการเหรอครับ แล้วกับเครื่องเบนซิลหลังการของปาก2ชั้นมันจะเหมือนกับดีเซลหรือป่าวครับ หรือว่าผมอ่านแล้วเข้าใจอะไรผิด รบกวนโค้ชเจี๊ยบช่วยไขข้อข้องใจทีครับ ปล.Turbo 2 ลูก ใบหน้ายอดใบเท่ากัน ฐานใบเท่ากัน แต่ต่างกันที่ 6ใบคู่ กับ 7 ใบคู่ ลูกไหนน่าจะเวิร์คกว่ากันครับ ถ้าใบหลังเท่ากัน
ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน แต่เท่าที่รู้ ปาก 2 ชั้นแบบเดิมของ Holset ของ TF-06 ที่ไม่มีร่องลมให้ใบล่างกินลมถูกตามหลักการเหรอครับ แล้วกับเครื่องเบนซิลหลังการของปาก2ชั้นมันจะเหมือนกับดีเซลหรือป่าวครับ ผมคิดอย่างนี้ครับ TF06 ที่เราเอามาใช้กันนี้ มันเป็นเทอร์โบ test ถ้าใครเคยเห็นตอนที่มาเอาขายกลงจากตู้ ถ้าเอามาดู จะพบว่า บางลูกก็ กรีดเป็นร่องมาแล้ว บางลูกก็ไม่ได้กรีดเลย บางลูก ก็กรีดมาแล้วก็มี ส่วยมากที่กรีดมาแล้วจะขายได้ก่อนน่ะ ....... Turbo 2 ลูก ใบหน้ายอดใบเท่ากัน ฐานใบเท่ากัน แต่ต่างกันที่ 6ใบคู่ กับ 7 ใบคู่ ลูกไหนน่าจะเวิร์คกว่ากันครับ ถ้าใบหลังเท่ากัน ถ้าเป็นเครื่องเบนซิล ผมคิดอย่างนี้ครับ เครื่องเบนซิลนั้นเราใช้รอบสูง และเครื่องกินลมมากกว่าเครื่องดีเซลทำให้แรงมากมากกว่า แต่ด้วยเหตุที่เครื่องรอบจัดถ้าเทอร์โบหมุนรอบเท่าๆกัน เครื่องเบนซิลจะใช้บูสท์น้อยกว่า.....เพราะว่าเครื่องเบนซิลหมุนได้เกือบ 2 เท่าของ เครื่องดีเซล ดังนั้นลองคิดกลับกับ หากต้องการให้ดีเซลมีแรงม้าเท่ากับเบนซิลต้องบูทส์มากกว่า อย่างน้อย 2 เท่า (คือเอาอากาศเข้าเครื่องให้ได้มากเท่ากับ เบนซิลนั่นเอง) แต่ด้วยเหตุที่ หมุนรอบจัดไม่ได้ เทอร์โบของเครื่องดีเซลต้องมีลักษณะเฉพาะ แตกต่างออกไป เช่น ทำบูทส์ได้สูงมาก 3-4 บาร์ ทำลมเร็วติดบูทส์เร็ว และกันรุนทนต่อแรงดูดระดับ3-4 บาร์ได้ หน้าตาออกมาเป็น เทอร์โบอะไรเอ่ย ที่ ฐานใบหน้ากว้างๆจะได้บูส์เยอะๆ ใบหน้าถี่ๆจะได้ตักลมได้เร็ว ไส้ทนๆหน่อย ไม่งั้น พังง่าย แต่ ถ้าเป็นเทอร์โบเบนซิล ผมคิดว่า เทอร์โบที่หมุนได้จัดจ้าน ดูดลมได้เยอะมากๆ ถ้าตาคงออกมาเป็น เทอร์โบที่ฐานใบไม่กว้างมากแต่สูง เพราะว่าไม่ต้องอาศัยแรงเหวี่ยงหนีกลางอาศัยรอบของเทอร์โบที่สูงมากๆและให้ฐายใบสูงๆเพระว่า ดูดลมเยอะใช้ยอดใบหน้าใหญ่ๆแล้ว ทางลมออกจากใบหน้าต้องใหญ่ตามไปด้วย (จริงๆแล้วถ้ายอดใบมันใหญ่ ฐานมันก็สูงไปเองนั่นแหละ) และใบหน้าไม่ต้องถี่มาก แค่5-6ใบก็พอ เพราะว่า ถ้าถี่มากทำให้ในรอบกังหันเทอร์ไบน์ สูงๆ จะตักลมไม่ได้นั่นเอง .... เช่น TD07-10 เอาไปใส่เบนซิล ถ้าเป็นผม บูสท์อยู่ 1 บาร์ ผมจะไม่เอาไปทำปาก 2ชั้นหรอกครับ เพราะว่า ยังไงมันก็ไม่เซิร์ทหรอก และไปทำปาก 2ชั้น ทำให้ช่วงบุสท์น้อยเนี่ยทำลมได้ไม่ดี เพราะว่า ยอดใบหน้าตักลมได้มันก็รั่วออกตรงร่องลมเหลือข้าโข่งได้ไม่เต็มที่น่ะเอง แต่ถ้า 2JZ บูทส์ 60 psi ผมว่า ถ้าไม่พังก่อน คงวิ่งได้ 8 วิเหมือนกันนะ
... ตอบง่ายๆ แล้วแต่คนชอบครับ ... ถ้าจะให้ดีลองใส่ทั้ง 2 ลูก แต่ให้ใส่ 07-10 ก่อนแล้วค่อยใส่ H1E นะ ปล....มีHX35 ดันจะมาใช้H1E เวงกำ
ของผม HX 35 อยุ๋แล้วพี่ไม่เปลียนหรอกครับ อิอิ พอดีรถของรุ่นพี่เทอร์โบพัง ก็ เลย มาถามพี่ดูครับว่าอะไรดี มันต้องเอาอย่างนึงเลยอ่ะพี่ เอาไรดีครับจะได้ไปแนะนำเขาถูก 07 คนก็เล่นเยอะ H1E ก็ไม่แน่จัย
ทั้ง 2 ลูกเป็นของ Garrett A/R 66 ครับ แต่เป็นแบบปาก 2 ชั้นกะแบบปากชั้นเดียว ปล. ตอนนี้ 07-10 ปาก2ชั้นไม่มีโข่งหลังขายกันเท่าไหร่เหรอครับ หมดตังค์แระต้องระดมทุนทำสีแล้วครับ :cry::cry::cry:
M24 A/R55 .ในพวก 10 แม่งจี๊ดดีมากพอๆกับ 06-7 เลยนะครับ ลองดูครับ แต่จะมีอีกลูกคล้ายๆกันคือM24 A/R.58 10ล้อ ยังร้อง บูทส์ไม่มาเลย ไล่โข่งกันเหนื่อยเลย
จริงคับอันนี้คอนเฟิม ผมไม่เบิกใหม่กับพี่ปั้มเจ้าของรถที่ เวิร์ลเทคเองเลย สเป็คคล่าวๆ ยอดใบหน้า 58 ยอดใบหลัง 60 คงไม่ต้องบอกว่ารุ่นไหนนะครับ......... อ่อตอนนี้มี HX40W อยู่ 1 ลูกนะครับ สนใจรีบติดมาด่วย ถอดจากเครื่องรถใหญ่เลยนะครับ ไม่ใช่ของที่เอามาเล่นกันแล้วเอามาขาย