ผมใช้ civic coupe 2000 เดิมๆ ตอนนี้รถมีปัญหาวิ่งไม่ออกเลย เครื่องตื้อมาก และตามด้วยกินน้ำมันขนาดหนัก ได้ประมาณ 220 โลต่อถังแค่นั้น ผมได้เข้าศูนย์แล้วแต่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ และยังคงอาการเดิม ใครพอมีประสบการณ์นี้บ้างช่วยเล่าให้ฟังที หรือ พี่ๆในคลับพอจะแนะนำอู่ที่ชำนาญให้ด้วยครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ถ้าบอกเข้าศูนย์แล้วหาสาเหตุไม่เจอคิดว่าน่าจะมาจาก แคทตันนะครับ เพราะพอแคทตันแล้วจะวิ่งไม่ออก เกิดอาการอืด กินน้ำมัน แต่ระบบเครื่องทุกอย่างยังปกติ ไฟEngineก็ไม่โชว์ วิธีแก้ตัดแคทออกหรือเปลี่ยนแคทก็ตามใจ รถเครื่องเดิมมีคนวิ่งได้ถึง 15 โล/ลิตรเลยนะ คำเตือน ตัดแคทแล้วโปรดเก็บมาด้วย เพราะขายได้หลายร้อยคร๊าบบบ
แคทเดิมไม่ใช่ขายได้หลายร้อยนะครับ.... ผมขายไป 2200 (เขาวิ่งมาเอาถึงบ้านด้วย) ส่วนเรื่องเครื่องเดิม น่าจะผิกปรกติมากๆเลยครับ เพราะตอนผมใช้เครื่องเดิมเกียร์ออโต้ ซัดบ้างเมื่อมีโอกาส ยังวิ่งในเมืองได้ 10-11 โล/ลิตร เลยครับ ส่วนเรื่องอู่ ลองโทรไปคุยดูครับ 0866092233 ชื่อพี่หนุ่ม (รถผมทำกับเขา แฮปปี้ดีครับ)
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อคิดเห็นต่างๆ ผมได้ไปลองตัดระบบแคตออกแล้ว โดยให้ช่างกระทุ้งใส้แคทออกเลย ก็ออกตัวโล่งขึ้นเยอะเหยียบมิดทีเดียวได้ถึงเกือบ 7พันรอบ แต่รู้สึกว่าเครื่องยังคงตื้ออยู่ และอาการที่เพิ่มขึ้นคือ ออกตัวต้นไม่มีแรง แต่แรงเอาตอนปลายสงสัยเป็นทุกคนเวลาเอาแคตออกแล้ว ผมเลยให้ช่างเค้าตั้งไฟจานจ่ายให้อ่อนลงหน่อยนึง ก็ช่วยได้บ้าง ตอนนี้กำลังหาที่เช๊คกล่อง พอจะมีใครบอกได้ไหมครับถ้ากล่องขัดข้องจะมีไฟเตือนอะไรไหมครับ เพราะตอนนี้ไฟเตือนต่างๆไม่มีเลยเป็นปกติทุกอย่างไม่มีไฟโชว์หรือกระพริบให้เห็น และที่สันนิฐานอีกสองคันคือ ระบบเกียร์ และ ระบบควบคุมความเร็ว(วัดรอบ)ที่จะมีเซ็นเฃอร์อยู่ สองอันหลังอาศัยถามจากช่างเค้ามาแต่ยังไม่มีอาการอะไร หลังจากกระทุ้งแคตออกสังเกตุว่าวิ่งขึ้นได้อีก เป็น 260-280โล/ถัง ก็ดีขึ้นหน่อยแต่ยังไม่เต็มร้อย จะคอยมาเล่าความคืบหน้าต่อไปครับ และขอบคุณ คุณ March ที่ช่วยแนะนำอู่ อันนี้เค้าอยู่แถวไหนครับ อยากให้สมาชิก club si ได้ไปรวมตัวและใช้บริการเค้ามากๆ จะได้แชร์ประสบการณ์ให้ช่างมากๆ
เซ็งจอช ผมตัดทิ้งเมื่อ ราวๆ 4 ปีที่แล้ว ขอบอกว่าไม่รู้ว่าเค้าซื้อกัน ชั่งโลขาย พร้อมชุดท่อเดิมทั้งเส้น ได้ 60 บาท Yessssss เป็ด เครียดดดดดด !!!!!
ของพี่ได้ตั้ง60ของผมแถมเค้าไปฟรีๆเลย555 รถผมกินๆก็ยังวิ่ งได้7-9กม./ลิตร เยยแค่นี้ก็จะร้องละไม่มีตังเติมขับไปไหนถ้าเจอแบบบพี่ๆคงช็อกอ่ะ
วะ..วะ..หวัดดีกั๊บ(-/l\-) แปลว่าตอนแรกพี่จะวิ่งอยู่ประมาณ 8 กม./ลิตร หลังจากพี่เอาแคตออก ก็เพิ่มมาเป็นประมาณ 9 กม./ลิตร แล้วก็ตามมาด้วยต้นไม่จัดแต่ปลายแรงใช่ไหมคะ นี่คือข้อมูลที่น้องวาเข้าใจจากที่พี่เล่านะคะ เอาละ! งั้นมาลองเทียบกับของรถวา รถวาปี 00 เครื่องเดิม ตัดแคตออก ใส่ท่อสูตรแทน เข้าศูนย์ตลอด ตอนนี้ใช้น้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 9.8 กม./ลิตร ออกตัวค่อนข้างดี ปลายจะแผ่วลง (อันนี้ตรงข้ามกับพี่นะคะ) สิ่งที่วาสงสัยเพิ่มเติมคือ พี่ใส่ท่ออะไร แล้วตีHeader รึปล่าว เกียร์อะไร และปกติขับรถที่ความเร็วเฉลี่ยเท่าไหร่ อันหลังนี่มีผลต่อการกินน้ำมันด้วย
พี่ใช้เกียมัวอะ รถผมB18C วิ่งได้ 10 โล/ลิตรนะ ผมว่าเครื่องเดิมต้องได้ซัก 12-15โล/ลิตรนะ ถ้าได้น้อยกว่านั้นน่าจะผิดปกติครับ แต่ของน้องวาคงปกติ เพราะรถหนัก
รถที่กินน้ำมันมากจนผิดปกติ ต้องไล่หาสาเหตุจากอุปกรณ์ ที่เกี่ยวกับระบบน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนละคับ - มีรอยรั่วซึมตามท่อทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิง หรือเปล่า - เร็กกูเรเตอร์ รักษาแรงดันน้ำมันในระบบ ปกติดีมั้ย - ฯลฯ ถ้าอุปกรณ์หลักๆ ของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในสภาพที่ทำงานปกติทุกอย่าง ก็มาไล่ที่ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ในกรณีที่เครื่องยนต์ทานจุจนผิดปกติ โดยที่ไม่มีเซนเซอร์ตัวใหน ฟ้องความผิดปกติ ในระบบเลย อันนี้ยากหน่อยคับ เพราะเซนเซอร์ บางทีมันไม่เสีย จนระบบจับความเสียหายได้ แต่มันจะเพี้ยนเหมือนคนเมา ต้องอาศัยวิธีสับเปลี่ยน แล้วลองวิ่งใช้งานดูคับ ดังนั้น ต้องมาไล่เซนเซอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญ ในการประมวลผลและสั่งจ่ายน้ำมัน ให้กับเครื่องยนต์ ก็มี่อยู่หลายตัว แต่ที่เสียกันบ่อยๆนะ - อ็อกซิเจน เซนเซอร์ ตัวที่1 อันนี้เป็นหัวใจเลยคับผม - MAP เซนเซอร์ - WATER TEMP. - TP เซนเซอร์ (ลิ้นปีกผีเสื้อ) - ฯลฯ ถ้าแคตตันมาก่อน ควรจะสงสัยเจ้า อ็อกซิเจนเซนเเซอร์ก่อนละคับ เพราะถ้าแคตตัน มันก็จะเกิดความร้อน สะสมในระบบคายไอเสีย มากเกิน ทำให้อุปกรณ์ในระบบมันเพี้ยนได้ ทางที่ดีปรึกษาช่างอู่นอก 0 ที่ไว้ใจได้ลองไล่อาการดูดีกว่าคับ เพราะมันต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ของช่างล้วนๆละคับ ปล. ว่าแต่ไปทะลวงใส้แคตทำไมอะ น่าจะตัดขายอะนะ เสียดายจัง ไฟอ่อนไฟแก่ ก็มีผลต่อการบริโภคน้ำมันนะคับ ให้ดีควรจะตั้งให้ตรงตามสเปก หรือแก่ขึ้นนิดนึง คับผม
วะ..วะ..หวัดดีกั๊บ(-/l\-) เฮ้ย!! จริงดิ ทำไมรถวากินพอๆกับพี่เลยอะ Oxygen censor น้องวาก็เพิ่งเปลี่ยนของศูนย์เลยนะ รถวาไม่หนักเหอะ ของหลังรถนี่แทบไม่มีเลย ไม่เป็นไร หลังบ้านมีบ่อน้ำมัน เติมได้เรื่อยๆ
ตามนี้ครับ เห็นด้วยครับ...โดยเฉพาะ Oxygen Sensor ตัวที่ 1 เปลี่ยนแล้วเห็นผลแบบรู้สึกได้เลยครับ ขอเสริมอีกนิดครับอย่าลืมเช็คระบบแอร์ว่าดึงกำลังเครื่องไปหรือเปล่า เปลี่ยน กรองอากาศ หัวเทียน สายหัวเทียน กรองเบนซิน น้ำมันเกียรด้วยนะครับ และลองมุดดูใต้เครื่องด้วยนะครับว่ามีคราบน้ำมันซึมเยิ้มออกมาหรือเปล่า ถ้ามีก็ลองให้ช่าเช็คดูนะครับโดยเฉพาะที่ซีลหน้าและซีลท้ายเครื่องมักจะรั่วกันบ่อย รถผมเมื่อก่อนก็กินน้ำมันมากประมาณ 7 โล/ลิตร แถมวิ่งอืดอีก คิ้กดาวมาบ้างไม่มาบ้าง(วัดดวงเอา) ผมแก้ไขโดยเปลี่ยน กรองอากาศ กรองเบนซิน สายหัวเทียน หัวเทียน Oxygen Sensor และพวกซีลต่างๆ ประเกน กรองโซลินอยด์ กรอง spool วาวล์ ซีลเกียรตัวใหญ่ ซีลเกียรตัวเล็ก ฯลฯ ผลที่ได้คือประหยัดนำมันขึ้นครับ ขับในเมืองประมาณ 12-13 โลลิตร คิกดาวมาแบบทันใจไม่ต้องลุ้น เสียงท่อดังขึ้น รอบต้นมาไวครับ รู้สึกทุกอย่างมันกระชับเหมือนได้รถใหม่เลยครับ
ต้องดูว่ารถติดด้วยหรือเปล่าครับเพราะเวลารถติดของผมยังกินน้ำมันสุดๆเลยเหยียบคันเร่งสลับเบรกไปๆมาๆน้ำมันยุบเห็นๆ แต่ถ้าเวลาวิ่งยาวๆปรกติน้ำมันถังนึงวิ่งได้ประมาณ 400 โล
เยี่ยมเลยครับ ความรู้เพิ่มนะเนี่ย แหล่มเลยยยยยยย ส่วนเรื่องทำท่อนี่ผมก็ทำมาหลายรอบเหลือเกิน ตัด CATT ต้นอืดจริงครับ เพราะมันโล่งไปหน่อย ปลายวนช่วยได้ในระดับนึง แต่พอใส่ท่อเกรียวรีดอากาศแทน CATT ดีขึ้นเยอะเลยครับผม ใส่มา ตัวละ 1500 บาท ส่วนถ้าอยากให้ตีนต้นดีขึ้นลอง ตี Head ใหม่ดูครับ 4-2-1 รับรองเห็นผล อิอิ ถ้าเกียร์ ออโต้ ต้องการตีนต้นนะครับ อ้นไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ถ้าอยากจี้ดๆๆ ก็ล้อ 15 STD จากโรงงาน รับรองจีดได้ใจ 55555 แต่ผมใส่ 17 นะ ต้นหายกำไรหด แต่ "หล่อสุดใจขาดดิ้น" 555