คำพยากรณ์ของวันสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 View attachment 1571462 ปีขาล (เทวดาผู้หญิง ธาตุไฟ) โทศก จุลศักราช ๑๓๗๒ ทางจันทรคติ เป็น อธิกมาสทางสุริยคติ เป็นปกติสุรทิน วันที่ ๑๔ เมษายน เป็น วันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ เวลา ๐๗ นาฬิกา ๑๙ นาที ๑๙ วินาที นางสงกรานต์ ทรงนามว่า มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ (ลา) เป็นพาหนะ วันที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๑๑ นาฬิกา ๑๘ นาที ๓๖ วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น ๑๓๗๒ ปีนี้ วันอังคาร เป็นธงชัย วันพฤหัสบดี เป็นอธิบดี วันจันทร์ เป็น อุบาทว์ วันเสาร์ เป็น โลกาวินาศ ปีนี้ วันอังคาร เป็นอธิบดีฝน บันดาลฝนให้ตก ๓๐๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๓๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๖๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๙๐ ห่า ตกในเขาจักรวาล ๑๒๐ ห่า นาคให้น้ำ ๗ ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ ๕ ชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ (ด้วงกับแมลง) จะได้ผลกึ่ง เสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช (ไฟ) น้ำน้อย คำทำนายโบราณ วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธวันเนาตรงกับวันพฤหัสบดีวันเถลิงศกตรงกับวันศุกร์เขาบอกว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ผลไม้จะแพง ราชตระกูลจะมีความร้อนใจ แต่พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก นอกจากนี้การที่นางสงกรานต์มีอิริยาบถยืนมาจะทำให้เกิดความเดือดร้อนเจ็บไข้ คำพยากรณ์ล้านนาพยากรณ์ว่า ถ้ามหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ ปีนั้นฝนตกบ่ทั่วเมือง หัวปีมีมาก กลางปีน้อย ข้าวในนาจะได้ครึ่งเสียครึ่ง ของบริโภคจะแพง ขุนนางขุนเมืองจะตกต่ำ คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์ คนเกิดจันทร์และวันเสาร์มีโชค ส่วนนางสงกรานต์ หลายคนดูแล้ว คงรู้สึกว่าไม่ดุเท่าไร โดยเฉพาะคำพยากรณ์ ก็ดูเหมือนจะตรงกับสภาพบ้านเมืองอยู่แล้ว ไม่ว่าเรื่องของแพง การเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งสองสามปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่เดือดร้อนกันทั่วโลก สาเหตุหนึ่งก็มาจากการทำลายธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้โลกขาดสมดุลจึงเกิดภัยพิบัติมากมาย แต่เทวีองค์นี้ก็ยืนขี่ลา ถือเหล็กแหลมและไม้เท้าเสด็จมาในปีเสือ วันพุธ หากมองเป็นนัย ลานั้นมักถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่โง่และดื้อรั้น ส่วนเสือโดยปกติ ถือว่าเป็นสัตว์รักสงบ ยกเว้นตอนมันหิว มันก็จะกลายเป็นสัตว์นักล่าที่อันตรายและดุร้าย ขณะเดียวกันพุธคือ MERCURY เทพแห่งการสื่อสาร ดังนั้น นางสงกรานต์จึงเป็นเสมือนสัญญาณเตือนให้เราตระหนักว่า ปีนี้ควรระมัดระวังการสื่อสารให้ดี อย่าหลงผิดด้วยความเขลาหรือดื้อรั้นดันทุรัง(เหมือนลา) ขณะเดียวกันก็ต้องมีเหล็กแหลม (สติ-ปัญญา)คอยกำกับ และมีไม้เท้า (สัมมาทิฐิ-ความเห็นชอบ/ความคิดที่ถูกที่ควร) เป็นสิ่งช่วยพยุง เพื่อให้เรารอดปลอดภัย ที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้ความ “หิว” หรือ “กิเลสตัณหา” ครอบงำเป็นอันขาด ไม่ว่าจะหิวเงิน หิวอำนาจ หรือหิวความรัก ฯลฯ มิฉะนั้นแล้ว แต่ละคนจะเป็นดังเสือหิว ที่จ้องทำลายล้างกันและกัน ดีแต่ว่านางมณฑาเธอยังมีแก้วไพฑูรย์หรือแก้วตาแมวเป็นอาภรณ์เครื่องประดับ ซึ่งถือกันว่าเป็นหินที่ช่วยป้องกันอาถรรพ์และภัยพิบัติต่างๆได้ “สงกรานต์” เป็นปีใหม่ไทย ที่ใช้ “น้ำ” สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ เป็นสื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำขอพรจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ผู้ที่เราเคารพนับถือ การสรงน้ำพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ดังนั้น เราจึงควรถือโอกาสนี้มอบ “น้ำใจ” อภัยแก่กันและกัน เพื่อแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดินถิ่นเกิด และเป็นนิมิตหมายของการเริ่มต้นปีใหม่ไทยที่ดีต่อไป แหล่งที่มาจาก น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม http://trangzone.com/webboard_show.php?ID=28860 ( สืบค้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2553 ) ปล.เดินทางท่องเที่ยว ขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ไม่ว่าจะไปที่ใดก็ขอให้ปลอดภัยตลอดทริปนะครับ มีความสุข สดชื่น ตลอดเทศกาลกันทั้งครอบครัวนะครับ