อยากสอบถามและขอคำแนะนำพี่ ๆ ในนี้ นะครับ คือ ผมได้รถ B11 ต่อจากพี่ผม (แกซื้อรถใหม่ เลยยกคันนี้ให้ผมใช้) ใช้มาประมาณ 2 เดือน ไว้ขับกลับบ้านต่างจังหวัดกับมา กทม. เติมน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 47-48 บาท เติมเต็มถัง ก็ประมาณ 1,800 บาท วิ่งได้ประมาณ 13 กิโล ต่อลิตร (วิ่งทางต่างจังหวัดส่วนใหญ่) ความเร็วประมาณ 100 ผมรู้สึกว่าแพง เลยไม่ค่อยใช้ขับใน กรุงเทพฯ เลยจอดไว้มากกว่า รถก็เก่าตามสภาพ แต่เครื่องยังแน่นดีอยู่ เครื่องเดิม วิ่งมาประมาณ 180,000 กิโล พี่อีกคน แนะนำให้ขาย ซึ่งก็ได้ไม่กี่ตัง ผมก็เลยคิดว่า จะติดแก๊สใช้ หรือขายดี เลยขอสอบถามพี่ ๆ ในนี้ หน่อยครับ ดังนี้ 1. B11 ติดแก๊สได้ไหม ติดแล้วจะดีไหม หมายถึง lpg 2. ติดแก๊สแล้ว อัตราการสิ้นเปลือง เช่น แก๊สหนึ่งลิตร วิ่งได้ประมาณ กี่กิโล 3. ถ้าจะติด ควรติดระบบอะไร (ผมดูข้อมูลในเน็ต เห็นมีระบบดูด กับระบบหัวฉีด) ราคาประมาณเท่าไหร่ 4. ติดแก๊สแล้ว จะมีปัญหาการบำรุงรักษาตามมามากไหม (เห็นคนบอกว่า ติดแก๊สแล้ว รถจะจุกจิก เสียไว และต้องซ่อมบ่อย ๆ) รบกวนสอบถาม และขอคำแนะนำจากพี่ ๆ หน่อย ครับ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ออกความเห็นได้เต็มที่ครับ ไม่ต้องเกรงใจ รับฟังทุกความคิดเห็น ขอบคุณ..ครับ
กรณีนำรถไปติด LPG คนชอบก็บอกไม่เป็นไร คนไม่ชอบก็บอกไม่ดี นานาจิตตัง ขึ้นอยู่กับตัวเรามากกว่าว่าเลือกทางไหน แน่นอนว่าติดแก็สแล้วลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้แน่นอน แต่เครื่องยนต์มันออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำมัน เพราะฉะนั้นก็ต้องยอมรับในบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เครื่องร้อนมากขึ้น(แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร), การดูแลที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้น เช่น ท่อทางเดินน้ำมันเดิมเริ่มเปื่อยหรือเปล่า(ป้องกันไฟไหม้) เป็นต้น ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะเลือกอะไรครับ B11 ติดแก็สกันก็เยอะนะ เท่าที่สังเกตุสมาชิกใน board ouh (Gasthai.com :website ด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดรวบรวมข้อมูลการติดตั้งแก๊ส LPG NGV น้ำมัน พลังงานทดแทน เครือข่ายผู้บริโภค จุดนัดพบของผู้ประกอบการและผู้ใช้จริง ด้วยครับ) ยังไงแก็สก็ถูกกว่าน้ำมันครับ ส่วนถ้าจะติดแก็สขอแนะนำให้เตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อมเพื่อที่ว่าหากติดแก็สแล้วมีปัญหาจะได้พุ่งเป้าไปที่ระบแก็สอย่างเดียว แล้วหาร้านที่รับผิดชอบดีๆ (ลองค้นใน Net ก็ได้) ใกล้บ้าน (แต่ของผมตอนนั้นอยู่ชลบุรีมาติดแถวเมืองเอกรังสิตเพราะเช็คใน Net แล้วติดที่นี่ปัญหาน้อยสุด มีกลับเข้าไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น) ลองเข้าไปปรึกษาดู (ผมแนะนำนิดลองถามดูว่าต้องเตรียมรถอย่างไรบ้างเพื่อมาติดเก็ส ถ้าเค้าบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ก็ควรระวังนะครับ) ส่วนระบบ ถ้าหัวฉีดก็แพงกว่า ดูด แต่หัวฉีดไม่จุกจิกในการใช้งาน แต่มีอายุการใช้งานที่ชัดเจนเพราะเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ + กลไก ส่วนแบบดูด จุกจิกในการใช้งาน (ต้องหัดจูนเองบ้างให้เป็น, เป่ากรองอากาศบ่อย, ระบบไฟจุดระเบิดสมบูรณ์) แต่ใช้กันแบบยาวๆ 2 ปี เปลี่ยนหม้อต้มที (ซื้อเปลี่ยนเอง ไม่เกิน 1,600 แต่ ระบบหัวฉีด เปลี่ยนรางหัวฉีดน่าจะหลายพัน อยู่) ส่วนราคาต้องลองสอบถามดูครับ ดูใน Gasthai.com :website ด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดรวบรวมข้อมูลการติดตั้งแก๊ส LPG NGV น้ำมัน พลังงานทดแทน เครือข่ายผู้บริโภค จุดนัดพบของผู้ประกอบการและผู้ใช้จริง ก็ได้ นิดนึงถ้าติดแบบดูดลองถามเป็นสูตรย้ายมิกซ์ติดกรองเปลือย(ไม่เอามิกซ์ครอบปากคาร์บู) จะมีความสุขในการใช้รถขึ้นอีกเยอะ อือสำหรับอัตราสิ้นเปลืองผมว่ามันพิกลอยู่นิด เพราะของผม B14 เครื่อง 1500 MT ปี 96 วิ่งน้ำมัน ที่ 90 มันได้เกือบ 16 km/L (ของคุณมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เมื่อนานแล้วเคยมีเจ้าของ B11 เคยบอกผมว่าเค้าวิ่งน้ำมันได้ประมาณ 15 Km/L นา แต่อาจจะเพราะอายุของรถหรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ) แต่ถ้าเป็น LPG จะได้ความสิ้นเปลืองเป็น 80% ของการวิ่งน้ำมัน ครับ - - - Updated - - - กรณีนำรถไปติด LPG คนชอบก็บอกไม่เป็นไร คนไม่ชอบก็บอกไม่ดี นานาจิตตัง ขึ้นอยู่กับตัวเรามากกว่าว่าเลือกทางไหน แน่นอนว่าติดแก็สแล้วลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้แน่นอน แต่เครื่องยนต์มันออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำมัน เพราะฉะนั้นก็ต้องยอมรับในบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เครื่องร้อนมากขึ้น(แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร), การดูแลที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้น เช่น ท่อทางเดินน้ำมันเดิมเริ่มเปื่อยหรือเปล่า(ป้องกันไฟไหม้) เป็นต้น ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะเลือกอะไรครับ B11 ติดแก็สกันก็เยอะนะ เท่าที่สังเกตุสมาชิกใน board ouh (www.gasthai.com ด้วยครับ) ยังไงแก็สก็ถูกกว่าน้ำมันครับ ส่วนถ้าจะติดแก็สขอแนะนำให้เตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อมเพื่อที่ว่าหากติดแก็สแล้วมีปัญหาจะได้พุ่งเป้าไปที่ระบแก็สอย่างเดียว แล้วหาร้านที่รับผิดชอบดีๆ (ลองค้นใน Net ก็ได้) ใกล้บ้าน ลองเข้าไปปรึกษาดู (ผมแนะนำนิดลองถามดูว่าต้องเตรียมรถอย่างไรบ้างเพื่อมาติดเก็ส ถ้าเค้าบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ก็ควรระวังนะครับ) ส่วนระบบ ถ้าหัวฉีดก็แพงกว่า ดูด แต่หัวฉีดไม่จุกจิกในการใช้งาน แต่มีอายุการใช้งานที่ชัดเจนเพราะเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ + กลไก ส่วนแบบดูด จุกจิกในการใช้งาน (ต้องหัดจูนเองบ้างให้เป็น, เป่ากรองอากาศบ่อย, ระบบไฟจุดระเบิดสมบูรณ์) แต่ใช้กันแบบยาวๆ 2 ปี เปลี่ยนหม้อต้มที (ซื้อเปลี่ยนเอง ไม่เกิน 1,600 แต่ ระบบหัวฉีด เปลี่ยนรางหัวฉีดน่าจะหลายพัน อยู่) ส่วนราคาต้องลองสอบถามดูครับ ดูใน www.gasthai.com ก็ได้ นิดนึงถ้าติดแบบดูดลองถามเป็นสูตรย้ายมิกซ์ติดกรองเปลือย(ไม่เอามิกซ์ครอบปากคาร์บู) จะมีความสุขในการใช้รถขึ้นอีกเยอะ อือสำหรับอัตราสิ้นเปลืองผมว่ามันพิกลอยู่นิด เพราะของผม B14 เครื่อง 1500 MT ปี 96 วิ่งน้ำมัน ที่ 90 มันได้เกือบ 16 km/L (ของคุณมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เมื่อนานแล้วเคยมีเจ้าของ B11 เคยบอกผมว่าเค้าวิ่งน้ำมันได้ประมาณ 15 Km/L นา แต่อาจจะเพราะอายุของรถหรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ) แต่ถ้าเป็น LPG จะได้ความสิ้นเปลืองเป็น 80% ของการวิ่งน้ำมัน ครับ
ตอบนะครับ ข้อ1. B11 เครื่องเดิม E13 หรือ E15 เครื่องเดิมจากโรงงาน ต้องติดเป็นระบบดูดครับ เพราะเป็นคาร์บู ได้ความประหยัดเพิ่มขึ้น เเต่อัตราเร่งลดลงนะครับ เพราะรูอากาศน้อยลง ข้อ2. อัตราสิ้นเปลืองของผมเครื่องเดิม E13 ก่อนเปลี่ยนเครื่อง วิ่งเเก็ส กิโลละ 1 บาท ครับ เลวร้ายสุดผมว่าไม่เกิน กิโลละ 1.2 บาท หรอกครับ (เเก็สลิตรละ 13 บาท เบนซิน 95 เกือบ 50 บาท) ข้อ3. ต้องเป็นระบบดูดครับ เพราะเป็นเครื่องคาร์บูครับ เเต่ถ้าเปลี่ยนเครื่องเป็น Ga15 หรือ Ga16 ติดได้ทั้งระบบดูด เเล ฉีด ครับ ข้อ4. ผมว่าตามกระทู้ข้างบนกล่าวไว้เลยครับ เเนะนำให้ซ่อมเเซ่มบำรุงเครื่องให้สมบูรณ์ก่อนครับ ่ก่อนนำไปติดตั้งเเก็ส เช่น ท่อทางเดินน้ำมัน หัวเทียน กะลาจ่ายไฟ เป็นต้นนะครับ ถ้าเกิดปัญหาอะไร ช่างที่ติดตั้งจะไม่สามารถมาโทษเครื่องยนต์ หรือ รถ เราได้ ปล. ผมเสริมให้อีกนิดนะครับ ถ้าติดเเก็สเเล้วต้องเปลี่ยนโช๊คหลังให้เเข็งขึ้นครับ เเล้วก็สปริงด้วย ไม่งั้นท้ายห้อยนะครับ
ของผมแบบดูด เรื่องอัตราเร่งเวลาเป็นแก็ส ของผมมีความรู้สึกว่าเป็นแก็สแล้วดีกว่าน้ำมัน (พอดียังใช้ได้อยู่) ปรากฎว่าเร่งดีกว่าน้ำมัน (ตอนหลังออกตัวไปแล้ว) อาจจะเพราะผมใช้ Mix 29 ซึ่งใหญ่มากรึเปล่าไม่รู้ (ออกตัวเรื่อยๆ แต่ไปแรงตอนวิ่ง) แล้วก็ปรับองศาจุดระเบิดแก่อีกหน่อย ติด A/F meter แล้ว หาเทคนิคปรับ Power value ให้จ่ายแก็สได้พอตลอด วิ่งดีกว่าน้ำมันซะอีก (ถ้าปกติที่ช่างเคยจูนให้ ไม่มี A/F meter จะได้แค่ เดินเบานิ่ง เร่งอยู่กับที่แล้วไม่วอด แต่วิ่งจริงแล้ววิ่งไม่ออก แก็สไม่พอ) - - - Updated - - - ของผมแบบดูด เรื่องอัตราเร่งเวลาเป็นแก็ส ของผมมีความรู้สึกว่าเป็นแก็สแล้วดีกว่าน้ำมัน (พอดียังใช้ได้อยู่) ปรากฎว่าเร่งดีกว่าน้ำมัน (ตอนหลังออกตัวไปแล้ว) อาจจะเพราะผมใช้ Mix 29 ซึ่งใหญ่มากรึเปล่าไม่รู้ (ออกตัวเรื่อยๆ แต่ไปแรงตอนวิ่ง) แล้วก็ปรับองศาจุดระเบิดแก่อีกหน่อย ติด A/F meter แล้ว หาเทคนิคปรับ Power value ให้จ่ายแก็สได้พอตลอด วิ่งดีกว่าน้ำมันซะอีก (ถ้าปกติที่ช่างเคยจูนให้ ไม่มี A/F meter จะได้แค่ เดินเบานิ่ง เร่งอยู่กับที่แล้วไม่วอด แต่วิ่งจริงแล้ววิ่งไม่ออก แก็สไม่พอ)
ขอบคุณ..พี่ ๆ ทุกท่านครับ - ถ้าผมจะติดแก๊ส คงต้องเตรียมความพร้อมของเครื่องยนต์ อย่างทีพี่ miness กล่าวไว้ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ระบบสาย และท่อ ต่าง ๆ จะไหวไหม? - ส่วน พี่ pao ผมไม่รู้เหมือนกันครับ ว่ารถผม เครื่อง E13 หรือ E15 รู้แต่ว่า เป็น B11 รุ่นแรก ใช้แก๊สโซฮอลล์ ไม่ได้ นะครับ ต้องเติมเบนซิน แต่เท่าที่ดู เครื่องยนต์ ผมว่ายังแน่นอยู่ ครับ ฟังจากเสียง และเลขไมล์ที่วิ่ง ประมาณ 180,000 กิโลเอง ครับ เป็นเครื่องเดิม แต่อุปกรณ์อื่น คงเก่าตามอายุ นะครับ ผมคงต้องศึกษาข้อมูลอีกสักหน่อย นะครับ ถึงจะตัดสินใจ ว่าจะเอาอย่างไรดี ขอถามเพิ่มเติม ครับ ถ้าติดแก๊ส ต้องแจ้งขนส่งใช่ไหม? แล้วต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอะไรบ้าง เช่น ค่าต่อทะเบียน หรืออื่น ๆ ขอบคุณ ครับ
ขอบคุณ.. ครับ ถ้าจะติดแก๊ส ผมคงต้องเช็คเครื่องยนต์ รวมทั้งระบบ สาย และระบบท่อ ให้พร้อมอย่างที่พี่ว่าไว้ ครับ
ส่วนพี่ pao ผมไม่ทราบเหมือนกัน ว่ารถผม เครื่อง E13 หรือ E15 รู้แต่ว่า เป็น B11 รุ่นแรก ครับ แล้วเครื่อง 2 ตัวนี้ ต่างกันอย่างไร
แต่เท่าที่ดู เครื่องยนต์ของผม น่าจะยังแน่นอยู่ นะครับ ฟังจากเสียง เพราะเลขไมล์ วิ่งมาประมาณ 180,000 กิโล เองครับ แต่ระบบอื่น ๆ น่าจะเก่าตามอายุ ก็คงต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักหน่อย นะครับ จะได้ตัดสินใจได้ แล้วขอถามเพิ่มนิดนึงครับ ถ้าติดแก๊สแล้ว ต้องแจ้งขนส่งใช่ไหม? แล้วต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอะไรอีกรึเปล่า? เช่นค่าทะเบียน และอื่น ๆ ขอบคุณ...ครับ
ถ้าไม่ลำบากมากก็ควรจะแจ้งไว้ เผื่อถ้ารถมีประกัน จะได้ไม่มีปัญหาตามมา มีค่าแจ้งแก้ไขเล่ม+ตรวจสภาพ (จำได้ว่าค่าใช้จ่ายแค่ร้อยสองร้อย) ค่าต่อทะเบียนเท่าเดิม
ต้องขอโทษด้วยครับ ตอนผมตอบกลับในกระทู้ พิมพ์ส่งไปแล้ว ระบบขึ้น error ก็เลยพิมพ์ใหม่และส่งใหม่ หลายรอบ กลายเป็นว่า ที่พิมพ์มาทั้งหมด ได้ตอบเข้ากระทู้แล้ว เลยดูเป็นการพิมพ์เรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เพิ่งเข้าตอบกระทู้เป็นครั้งแรก ครับ ต้องขออภัยด้วย...ครับ
เครื่องเดิมผม E13 ก่อนเปลี่ยนเครื่องผมก็เติม แก๊สโซฮอลล์95 นะครับ เเต่ต้องเปลี่ยนพวกสายน้ำมันที่ออกเเบบมารองรับ โซฮอลล์ ครับ เเล้วก็หมั่นตรวจเช็คกรองเบนซินบ่อยๆ ครับ ว่าตันไหม เพราะมันกัดกร่อนดีเหลือเกินครับ :cry: - - - Updated - - - เครื่องเดิมผม E13 ก่อนเปลี่ยนเครื่องผมก็เติม แก๊สโซฮอลล์95 นะครับ เเต่ต้องเปลี่ยนพวกสายน้ำมันที่ออกเเบบมารองรับ โซฮอลล์ ครับ เเล้วก็หมั่นตรวจเช็คกรองเบนซินบ่อยๆ ครับ ว่าตันไหม เพราะมันกัดกร่อนดีเหลือเกินครับ :cry:
รถคันเก่าของผม TOYOTA KE30 ก็ไม่อยู่ใน list แก็สโซฮอลแต่ก็ใช้อยู่หลายปีครับ แต่ไปแจ็คพ็อตแตกตอนประมาณปีที่ 5 มั้ง ไดอะแฟรมในปั้มเบนซินทะลุครับ น้ำมันเบนซินลงไปอยู่ใน้ำมันเครื่อง (เป็นปั้มรุ่นแรกที่อยู่กับเครื่องเลย) + สตาร์ทไม่ติด ก็ระวังเรื่องสายแต่ต้องดูถึงส่วนปั้มน้ำมันที่สัมผัสด้วยนะครับ
ยินดีต้อนรับ ผมพึ่งติด แก๊สมาเหมือนกันประหยัดดี ต้องแจ้งขนส่ง เอาใบรับรองจากร้านที่ติดแก๊สไปทำเรื่องเปลี่ยน ใช้เวลาไม่นานครับไม่น่าเกินครึ่งวัน ไม่ยุ่งยาก ครับ เสียค่าใช้จ่ายนิดหน่อย หลักร้อย
ขอบคุณ...ครับ พี่ tiger13 หมดค่าใช้จ่ายติดแก๊สไปเท่าไหร่ ครับ ตอนนี้ ผมก็ยังคิด ๆ อยู่ เพราะรถก็ค่อนข้างเก่า กลัวระบบท่อต่าง ๆ จะมีปัญหาได้ เห็นข่าว รถยนต์ติดแก๊สแล้วไฟไหม้ รู้สึกไม่มั่นใจพอสมควร...ครับ (หมายถึงสภาพรถตัวเองนะ) ขอบคุณครับ
การ Chk รถก่อนติดแก๊สก็เก็บงานตามอายุของรถเลยครับ หลัก ๆ ดูพวกสายไฟกับระบบท่อลมต่าง ๆ ให้ดี ๆ เพราะติดแก๊สแล้วปัญหาที่เจอบ่อยของรถเก่า ๆ ก็พวกเรื่องการชดเชยรอบ สาเหตุที่ติดแก๊สแล้ววิ่งดีกว่าน้ำมันเพราะว่ามีมิกซ์เซอร์ไปขวางทางอากาศอยู่ครับ ทำให้สภาพแวดล้อมมันเหมาะกับแก๊สมากกว่าน้ำมัน ผมเคยถอดมิกซ์ออกแล้ววิ่งน้ำมันตอนแข่งในพีระ อย่างถอดถังแก๊สออกเลยทีเดียวถ้ามันไม่ประหยัดกว่า ถ้าไม่ได้คิดจะขายรถก็ติดไปเถอะครับ ติดแล้วจะได้ขับในเมืองได้ด้วย เดินทางกลับบ้านก็สบายใจไม่ต้องคิดมากเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทาง ส่วนเรื่องแจ้งขนส่งก็ตามข้างบนครับ แจ้งไว้เลยดีกว่า ทำทุกอย่างให้ถูกต้องจะได้ไม่ต้องกังวลใจ ก่อนหน้านี้ผมใช้รถทุกวัน ค่าน้ำมันเดือนละประมาณ 5500 แต่พอติดแก๊สแล้วเหลือประมาณ 2500 เท่ากับประหยัดเดือนละ 3000 ค่าติดแก๊สตอนนั้น 14000 ใช้มาแล้ว 3 ปี ผมเอา 3000 * 36 = 108000 - 14000 ค่าติดตั้ง หมายความว่าผมประหยัดเงินไปแล้ว 94000 ครับ ปล. อันนี้ไม่ควรเลียนแบบนะครับ - ผมติดแก๊สไม่ได้แจ้งลงเล่ม - รถผมกินน้ำมันประมาณ 150 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร เพราะใช้แก๊สซะส่วนใหญ่ ^_^ - รถผมตรวจสภาพเอกชนไม่ได้เพราะไม่ได้แจ้งติดแก๊ส - การต่อทะเบียนไม่จำเป็นต้องไปขนส่งเองนะครับ ฝากเค้าไปก็ได้ สบายดี - - - Updated - - - การ Chk รถก่อนติดแก๊สก็เก็บงานตามอายุของรถเลยครับ หลัก ๆ ดูพวกสายไฟกับระบบท่อลมต่าง ๆ ให้ดี ๆ เพราะติดแก๊สแล้วปัญหาที่เจอบ่อยของรถเก่า ๆ ก็พวกเรื่องการชดเชยรอบ สาเหตุที่ติดแก๊สแล้ววิ่งดีกว่าน้ำมันเพราะว่ามีมิกซ์เซอร์ไปขวางทางอากาศอยู่ครับ ทำให้สภาพแวดล้อมมันเหมาะกับแก๊สมากกว่าน้ำมัน ผมเคยถอดมิกซ์ออกแล้ววิ่งน้ำมันตอนแข่งในพีระ อย่างถอดถังแก๊สออกเลยทีเดียวถ้ามันไม่ประหยัดกว่า ถ้าไม่ได้คิดจะขายรถก็ติดไปเถอะครับ ติดแล้วจะได้ขับในเมืองได้ด้วย เดินทางกลับบ้านก็สบายใจไม่ต้องคิดมากเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทาง ส่วนเรื่องแจ้งขนส่งก็ตามข้างบนครับ แจ้งไว้เลยดีกว่า ทำทุกอย่างให้ถูกต้องจะได้ไม่ต้องกังวลใจ ก่อนหน้านี้ผมใช้รถทุกวัน ค่าน้ำมันเดือนละประมาณ 5500 แต่พอติดแก๊สแล้วเหลือประมาณ 2500 เท่ากับประหยัดเดือนละ 3000 ค่าติดแก๊สตอนนั้น 14000 ใช้มาแล้ว 3 ปี ผมเอา 3000 * 36 = 108000 - 14000 ค่าติดตั้ง หมายความว่าผมประหยัดเงินไปแล้ว 94000 ครับ ปล. อันนี้ไม่ควรเลียนแบบนะครับ - ผมติดแก๊สไม่ได้แจ้งลงเล่ม - รถผมกินน้ำมันประมาณ 150 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร เพราะใช้แก๊สซะส่วนใหญ่ ^_^ - รถผมตรวจสภาพเอกชนไม่ได้เพราะไม่ได้แจ้งติดแก๊ส - การต่อทะเบียนไม่จำเป็นต้องไปขนส่งเองนะครับ ฝากเค้าไปก็ได้ สบายดี
ผมก็เพิ่งไปติดมา จะครบ 7 วันแล้ว ติดร้านแบบซื้อของมาติดเอง ไม่มีใบวิศวะ แบบนี้ถ้าผมจะแจ้งลงเล่ม ต้องทำยังไงบ้างครับ เห็นช่างบอก ให้ไปร้านที่เขารับตรวจสภาพรถแก๊ส แล้วจะได้ใบมาเอาไปลงเล่มได้ แต่ไม่ทราบค่าใช้จ่ายของส่วนนี้ครับ
และแล้ว ปั๊ม ac ผมก็พัง จริงๆ ใน gasthai.com มีข้อมูลที่ใช้จริงเพียบเลย ผมหาข้อมูลมาไม่ครบเอง ก็รับสภาพไป จะบอกว่า ถ้าท่านใดใช้ปั๊ม ac ต้องทำท่อน้ำมันวนนะครับ ไม่งั้นปั๊ม ac พังครับ + อ้างถึง ตอบกลับ