อยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื ่องจริง ! >>> เหตุการณ์เกิด ที่จังหวัดตาก >>> > > เมื่อพระเทพทรงเสด็จไป เยี่ยมราษฏร ตามที่ต่างๆ >>> ได้ ทรงเสด็จ > >ไปเยี่ยมประชาชนใน >>> ตลาดสด >>> และถามความเป็น > >อยู่กับบรรดาแม่ค้า ในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา >>> > >ซึ่งพระองค์ทรง ตรัสถามว่า "! ปลาพวก นี้ขายอย่างไงจ๊ะ" >>> > >แม่ค้าตอบว่า "ที่ สวรรคตแล้ว กิโล ละ 40 บาท >>> > >และที่เสด็จไปเสด็จมา! กิโล ละ 80 บาทจ๊ะ" >>> เหตุการณ์นี้ > >ทำให้ข้าราชบริพาลที่ ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน >>> > >--------------------------------------------------------- - >>> > >เช้าวันหนึ่ง เวลา ประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระ โอษฐ์ >>> ของฟ้าหญิง องค์ > >เล็ก >>> &n bsp; ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอ พูดสายกับ > >ฟ้าหญิง >>> ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใคร จะพูดสาย ด้วย >>> > > ก็มี เสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอฐก็ งง...งง >>> > > ว่าคนที่แบงค์ ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า >>> > > แต่ พอฟ้าหญิงรับ โทรศัพท์แล้วถึง ได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ >>> > > ก็ที่แบงค์จริ งๆนะ ไม่ เชื่อเปิด กระเป๋าตังค์ >>> > >แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุก เลย >>> ( > >ทรงตัสกับในหลวงท่านอยู่นั่น เอง) >>> &nbs! p; ---------- > >--------------------------- ------------------------- --------------------- > >- >>> >>> >>> อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื ่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน > >ของราษฎรผู้หนึ่ง >>> ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออก แปลกใจในการ > >กราบบังคมทูล >>> ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ ได้อย่างน่า ฉงน > > >>> เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถ ึงการใช้ราชา ศัพท์ได้ดีนี้ < > >FONT face=Arial color=#ff00ff size=4>>>> จึงมีคำกราบทูล ว่า > >"ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผ ลิเกเก่า >>> > >บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำ นาทำสวนพระ พุทธเจ้าข้า.." >>> ! > >มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรง ที่เลี้ยงไว้ ที่ชานเรือน >>> > >ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมี กี่ ตัว. >>> > >พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูล ว่า >>> " มีทั้งหมดสามตัว > >พระมเหสีมันบินหนี ไป >>> ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ > >ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย >>> และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้ > >เดียว" >>> เรื่องนี้ ดร. สุเมธ >>> >>> เล่าว่าเป ็นที่ต้องสะกด > >กลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว ้นแม้ในหลวง >>> > >------------------------------------------------------- -- - >>> > > เมื่อครั้งท่านพระชนม์มา ยุ 72 พรรษา >>> > >มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมา หลาย รุ่น >>> > >เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ ่งได้ยื่น เรื่องขออนุญาต >>> >>> > >นำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็น รุ่นพิเศษ >>> > > ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ ้าหน้าที่ว่า >>> > >"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่ มิกกี้ เมาส์" >>> ---------- > >----------------------------- >>> &nbs! p; > >เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับ ในหลวง >>> ดูจะเป็น > >เรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้ง แผ่นดิน >>> > >และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้เข้าเฝ้า >>> > >ทูลละอองธุลีพระบาทถวาย รายงาน >>> >>> ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน > >มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ ่งกราบบังคมทูลรายงาน >>> ว่า "ขอเดชะ > >ฝ่าละอองธ ุลีพระบาท ปก เกล้าปกกระหม่อม >>> > >ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลย เดช >>> ขอพระราชทานพระบรมราชานุ > >ญาต >>> กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ" >>> > >ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลย เดช >>> ขอพระราชทานพระบรมราชานุ > >ญาต >>> กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ" >>> > >เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื ่อในหลวงทรงแย้ม พระสรวล >>> > >อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือ สาว่า >>> "เออ ดี เราชื่อเดียว > >กัน..." >>> >>> ข่าวว่าวัน นั้นผู้เข้าเฝ้า > >ต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดา ลัย >>> เพราะผู้รายงาน > >ตื่นเต้นจนจำชื่อตน เองไม่ได้ >>> &n bsp; > >--------------------------------------- >>> มีอยู่ครั้ง > >หนึ่งทรงเสด็จไปพระราช ทานปริญญาบัตร >>> ให้กับนักศึกษา > >ของมหาวิทยาลัยแห่ง หนึ่ง >! ;>> ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย > >ทรง โปรดสูบมวน พระโอสถ >>> แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ ได้ >>> > >ทางอธิการบดี ซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูล ว่า >>> " > >ถวายพระเพลิงพระเจ้า ข้า" >>> ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวล > >น้อยๆ กับ อธิการบดีว่า >>> " เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้ > >หรอก" >>> ; ---------- ----------------------------- >>> > > เคยมีเรื่องเล่าให้ฟัง ว่า >>> ! > >ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดาร เเพื่อเยี่ยม เยียนราษฎร >>> >>> > >มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท ่านทรงแจกพระเครื่องให้ก ับราษฎรจนหมดแล้ว >>> > > แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมท ูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า >>> > > "ขอเดชะ ขอพระ หนึ่ง องค์" >>> ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ > >พระหมด แล้ว" >>&g! t; ---------- -------------- --------------- > > >>> >>> วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตาม > >ปกติที่ต่างจังหวัด >>> ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมาก มาย >>> ; > > พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเน ินมาตามลาดพระ บาท >>> > >ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ ่งได้ก้มลง กราบแทบพระบาท >>> > >แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ ของ! ในหลวง >>> แล้วก็พูดว่า > >ยายดีใจเหลือเกินที่ ได้เจอ ในหลวง >>> แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น > >ยายอย่าง นี้ < FONT face=Arial color=#ff00ff size=4>>>> > >อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง เฉยๆ >>> มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่า > >กระไร >>> แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้าก ันใหญ่ >>! ;> > > กลัวว่าพระองค์จะทรงพอ พระราชหฤหัย หรือไม่ >>> > >แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั ่งตอบ ว่ากับหญิงชร าคนนั้น >>> > >ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว ้ไม่ ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า >>> > > " เรียกว่ายายได้อย่าง ไร อายุอ่อน กว่าแม่ฉันตั้งเยอะ >>> > >ต้องเรียกน้าซิถึงจะ ถูก" >>> ---------- ----------------------! > >----------------- - >>> ครั้งหนึ่ง หลายๆ ปีมา แล้ว >>> > > พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน ่อยเกี่ยวกับ พระฉวีมีพระอาการคัน >>> > > มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข ้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา >>> >>> > >คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญ ทางราชา ศัพท์ >>> > > ก็กราบบังคมทูลว่า " เอ้อ - >>> ทรง...อ้า-ทร > >งพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะ ค่ะ" >>> พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล > >ตรัส ว่า >>> "ฉันไม่ใช่ ผู้หญิง นี่จะท้องได้ยังไง" >>> > >แล้วคงจะทรงพระกรุณา ว่า >>> หมอคงจะไม่รู้ ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกาย > >จริงๆ >>> ก็พระราชทานพระบรมราช! านุญาตว่า เอ้า พูดภาษา > >อังกฤษกันเถอะ >>> ---------- ----------------------------- >>> > > เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่า ให้ฟัง ว่า >>> มีอยู่ปีนึง ที่ > >ในหลวงทรงเสด็จ >>> พระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่าน รายชื่อ > >บัณฑิตแล้วบังเอิญว่า >>> มีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่าน ขาด > >ตอน >>> ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อ ไปถ ึงไหน แล้ว >>> > > ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลย ตรัสกับ อธิการไปว่า >>> > >"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไป แล้ว" >>> > >และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทาน ปริญญาบัตรอยู่ ดีๆ >>> ไฟดับไปชั่ว > >ขณะ... >>> ทำให้บัณฑิต คน หนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ ายรูป > > >>> พอในหลวงทรงพระราชทาน ปริญญาบัตร เรียบร้อยแล้ว >>> > > ก่อนที่จะให้พระบรม ราโชวาท >>> ! ; > >ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑ ิตคนนั้นมารับ พระราชทานอีกครั้ง >>> > > เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็น ที่ ระลึก >>> ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอ > >ประชุม >> > >>> ******** >>> ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืน > >นาน >>> >>> ----------------- ------------ > >ถ้ารักท่านก็ส่งไปเรื่อยๆ นะ