วะ..วะ..หวัดดีกั๊บ(-/l\-) หลายคนคงรู้จักกันดีกับฝากระโปรง Kevlar ที่เราเรียกกันอย่างติดปาก แต่ทุกท่านทราบไหมคะว่าจริงๆแล้ว มันมีคุณสมบัติอะไรที่ทำให้หลายคนเลือกนำมาใช้ มากกว่าแค่นำมาใส่เพราะทำให้รถดูสวยงาม วันนี้น้องวามีข้อมูลดีดีมาฝากเพื่อนๆคะ ชื่อจริงของมันคือ Aramid fiber หรือชื่อเต็มๆว่า Aramatic polyamide fibers แล้วบริษัท Du Pont company ได้ผลิตเจ้า Aremid fiber แล้วใช้ชื่อการค้าว่า "Kevlar" สำหรับข้อดี หรือ Advantage ของมันก็มีดังนี้นะคะ 1. Light weight >> น้ำหนักเบา 2. High Strength and Stiffness >> มีความแข็งแรงและหยืดหยุ่นสูง 3. Damage resistance >> ทนต่อการถูกทำลาย 4. Resistance to fatigue >> ทนต่อแรงที่ถูกกระทำซ้ำๆ 5. Stress rupture >> ทนต่อการแตกร้าว 6. High Tensile Strength >> ทนต่อแรงดึงสูง ข้อเสีย หรือ Disadvantage มีเพียงข้อเดียวคะ คือ Expensive >> ราคาแพง ปล. ข้อมูลทั้งหมดได้มาจากวิชา Materials Science ที่น้องวาได้เรียนมา เลยนำมาแปลให้เพื่อนๆได้อ่านเป็นความรู้เพิ่มเติมคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
อืม น่าสนใจมากอ่ะ วา แต่พี่ข้องใจอยู่เรื่องนึงอ่ะ คือ เรื่องของ ความร้อน เพราะบริเวณที่เป็นฝากระโปรง ความร้อนมันน่าจะมากอยู่ แล้วไอ้ Kevlar เนี่ยมันทนความร้อนได้ดีสักแค่ไหนอ่ะ อ่อ แล้วก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
วะ..วะ..หวัดดีกั๊บ(-/l\-) จริงๆแล้วในหนังสือที่วาเรียนไม่ได้กล่าวเรื่องทนความร้อนได้เท่าไหร่นะคะ แต่น้องวามีคำอธิบายเพิ่มเติมอีกนิดเกี่ยวกับวัสดุที่นำมาทำเจ้า Kevlar โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าจะเป็น Carbon fiber, glass fiber, และ aramid fiber(Kevlar) พวกนี้เค้าจะเรียกว่า "Polymer Composite" หมายถึง โพลีเมอร์ที่มี reinforcement(เสริมแรง) คือการนำโพลิเมอร์มาเสริมแรงด้วยการใส่ เจ้าสามตัวข้างต้นเข้าไป เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในทางวิศวกรรม น้องวาเลยกลับไปอ่านคุณสมบัติของ Polymer กลุ่มนี้จะทนความร้อนได้ตั้งแต่ 65-120 องศา แต่ตัวMatrix Plasticที่ใช้ทำ Kevlar นี่คือ Epoxy resins ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษกว่า Polymer ทั้วไป มันก็น่าจะทนความร้อนได้ดีนะคะ ตรงนี้น่าจะพอเป็นคำตอบให้พี่ตั้มได้นะคะ
วะ..วะ..หวัดดีกั๊บ(-/l\-) เอางั้นเลยนะคะพี่เอก สำหรับข้อดี หรือ Advantage ของมันก็มีดังนี้นะคะ 1. Light weight >> น้ำหนักเบา >>> หุ่นดี 2. High Strength and Stiffness >> มีความแข็งแรงและหยืดหยุ่นสูง >>> อะไรก็ยอม 3. Damage resistance >> ทนต่อการถูกทำลาย >>> อดทนสูง 4. Resistance to fatigue >> ทนต่อแรงที่ถูกกระทำซ้ำๆ >>> อันนี้คิดดีดีนะ 5. Stress rupture >> ทนต่อการแตกร้าว >>> ไม่ทะเลาะกันบ่อย 6. High Tensile Strength >> ทนต่อแรงดึงสูง >>> ไม่นอกใจง่าย ข้อเสีย หรือ Disadvantage มีเพียงข้อเดียวคะ คือ Expensive >> ราคาแพง >>> ต้องทุ่มเท + อ้างถึง ตอบกลับ